สระบุรี - “ปวีณา” ประสานพัฒนาสังคมฯ ตำรวจ นำกำลังเข้าช่วยหนูน้อยวัย 7 ขวบ หลังถูกพ่อทำร้ายร่างกายทารุณแล้วใส่ตู้คอนเทนเนอร์ โดยแม่ และเพื่อนบ้านทนไม่ไหวแอบถ่ายรูปร้องมูลนิธิปวีณา ช่วยเหลือ
วันนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ ด.ญ.แหม่ม (นามสมมติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านหนองผักหนอก ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตามคำร้องทุกข์จาก น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี มารดาที่ร้องขอความช่วยเหลือไปยังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพ ด.ญ.แหม่ม ถูกมัดด้วยสายไฟไพล่หลังอยู่ในที่พักเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ภายในแคมป์ที่พักคนงานเฝ้าไร่ ไม่มีชื่อแห่งหนึ่งริมทางเข้าวัดหนองผักกรูด หมู่ 7 หมู่บ้านหนองผักหนอก ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
พบ นายนรินทร์ ไกรสร อายุ 29 ปี บ้านเดิมอยู่ที่เลขที่ 43 หมู่ 1 ต.ป่าซัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อยู่กับ ด.ญ.แหม่ม ลูกสาว เพียงลำพัง 2 คน โดยเจ้าหน้าที่นำหลักฐานการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เอ ให้นายนรินทร์ ทราบ และนำตัวนายนรินทร์ พร้อมด้วย ด.ญ.แหม่ม มาที่ สภ.มวกเหล็ก เพื่อสอบสวนเบื้องต้น และลงบันทึกประจำวันขอรับ ด.ญ.แหม่ม ไว้ในอุปการะที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี
เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรี เปิดเผยว่า พัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.แหม่ม ตามที่ น.ส.เอ มารดาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไป โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายนรินทร์ และ ด.ญ.แหม่ม มาขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมขอรับตัว ด.ญ.แหม่ม ไปดูแลตรวจร่างกายฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี ก่อน เพื่อรอสอบสวนข้อเท็จจริงตามกฎหมาย (สหวิชาชีพ) จากนั้นจะเรียก บิดามารดามาพูดคุยสอบถามเพื่อดำเนินการต่อไป โดยด้านคดีเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน แต่ตัวของ ด.ญ.แหม่มนั้น ขณะนี้ต้องการจะไปอยู่กับแม่ เพราะอยากหนีไปจากพ่อ ที่มักทำร้ายร่างเป็นประจำจนทนไม่ไหว
ด้าน ร.ต.อ.วสันต์ ลำดวน รอง สว.สอบสวน สภ.มวกเหล็ก เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนเพียงรับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และต้องรอเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็ก จ.สระบุรี นำ ด.ญ.แหม่ม ไปตรวจร่างกาย และจะได้นำตัวมาสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ส่วน น.ส.เอ มารดา ด.ญ.แหม่ม ร่ำไห้เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ว่า จากหลักฐานต่างๆ ที่ลงในเฟซบุ๊กนั้น ตนได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อน จึงนำไปร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา หลังจากนั้น ทางมูลนิธิปวีณาได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริง ซี่งภาพที่เห็นเป็นภาพเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนายนรินทร์ อดีตสามีได้ทำร้ายร่างกาย ด.ญ.แหม่ม ลูกสาวทุกครั้งที่ผ่านมามักกระทำเช่นนี้เป็นการข่มขู่ให้ตนกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า นายนรินทร์ คนเป็นคนที่โหดร้ายและไม่รับผิดชอบต่อครอบครัว และที่ตนเองทนไม่ได้ คือ นายนรินทร์ มีความคิดจะทำมิดีมิร้ายกับ ลูกสาวคนโต ที่เกิดจากสามีเก่า แม้ขณะที่อยู่กินด้วยกันยังกล้าพูดขอกับตนตรงๆ ว่าอยากมีอะไรกับลูกเลี้ยง และทุกครั้งที่เมาสุราตนจะต้องถูกทำร้ายเป็นประจำจนทนไม่ไหว จึงได้หนีออกจากบ้านไป
คาดว่า นายนรินทร์ ได้กระทำกับน้องแหม่ม น่าจะเป็นการประชด บางครั้งทุบตีให้ตนได้ยินเสียงลูกร้องไห้เป็นการบังคับให้ตนกลับ โดยตนเองได้นำลูกคนโตหลบหนีการตามล่า ของนายนรินทร์ และล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมารู้ว่านายนรินทร์ ได้ใช้เท้าเหยียบหน้าอกลูก คือ ด.ญ.แหม่ม ตนจึงตัดสินใจร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาดังกล่าว