ตาก - แรงงานพม่ายังทะลักจากกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มุ่งหน้าออกชายแดนหวังกลับบ้านเกิดต่อเนื่อง แต่บางส่วนถูกทิ้งกลางทาง หลังคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อตากสั่งห้ามเคลื่อนย้ายคนต่างด้าวเข้าออก
วันนี้ (2 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ขนส่งได้เข้าควบคุมตัวแรงงานชาวพม่าทั้งชาย-หญิง จำนวน 42 คน ที่ถูกโชเฟอร์รถบัสนำมาทิ้งที่บริเวณหน้าสถานีขนส่งถนนจรดวิถีถ่อง อ.เมืองตาก ก่อนมารวมตัวกันที่บริเวณชานชาลาผู้โดยสาร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ท้อ ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก ได้นำแรงงานชาวพม่าถูกทอดทิ้งที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านห้วยนึ่ง ต.แม่ท้อ อีกจำนวน 21 คน เด็กชายอายุ 12 ปี อีก 1 คน มารวมไว้ที่สถานีขนส่งฯด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ พบว่าเป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยถูกต้องตามกฎหมายทุกคน พร้อมตรวจคัดกรองพบว่ามีแรงงานชาวพม่ามีไข้ขึ้นสูงเกิน 39 องศาเซลเซียล 3 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน จึงแยกตัวไว้ไม่ให้ปะปนกับผู้อื่น ก่อนตรวจซ้ำพบอุณหภูมิร่างกายลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ต่อมา นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากและประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดตาก เดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่า แรงงานชาวพม่าทั้งหมด 63 คนนี้ต้องเสียค่ารถคนละ 1,500 บาท เดินทางมาจากกรุงเทพฯ จะไปแม่สอดเพื่อกลับภูมิลำเนา แต่คนขับกลัวความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคฯ ที่ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดตากตั้งแต่ 2-16 เม.ย. จึงทิ้งแรงงานชาวพม่าทั้งหมดไว้ในพื้นที่ อ.เมืองตากหลายจุด
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดฯ ได้จัดรถตู้โดยสารประจำทางสายตาก-แม่สอด จำนวน 12 คัน นำแรงงานชาวพม่าทั้ง 63 คน โดยสารคันละ 5 คน เพื่อป้องกันติดเชื้อโรคโควิด-19 ส่งตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สอด (ตม.แม่สอด สะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2) ตรวจสอบเอกสาร และตรวจคัดกรองโรค ว่าจะมีการติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือไม่ ก่อนส่งกลับประเทศพม่าตามมาตรการควบคุมโรคที่มีข้อตกลงกันระหว่างไทยกับพม่าต่อไป