ตาก - ไทย-พม่าขยายเวลาเปิดด่านแม่สอด 2-เมียวดี ให้แรงงานพม่าตกค้างข้ามแดนกลับบ้านเกิดเพิ่มอีกวัน หลังหอบครอบครัวขนทั้งตู้เย็น ทีวี เครื่องเสียง ฯลฯ หนีโควิด-19 ออกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลมารอจนล้นหน้าด่านฯ
ตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ (23 มี.ค.) หน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอด เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จังหวัดตาก ยังคงมีแรงงานพม่าหลายพันคน พร้อมครอบครัวที่พากันนั่งรถโดยสารมาจากกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑลมาลงรถที่หน้าด่านฯ เพื่อรอทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองข้ามพรมแดนกลับบ้านเกิดฝั่งพม่า
แต่ทั้งหมดก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ได้ปิดแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เปิดให้เฉพาะรถขนสินค้าที่มีคนขับกับผู้ช่วยข้ามแดนภายใต้การตรวจคัดกรองโรคอย่างเข้มข้นเท่านั้น ทำให้แรงงานจำนวนมากพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งบางคนขนมาแม้กระทั่งตู้เย็น ทีวี พัดลม และลำโพงเครื่องเสียงขนาดใหญ่ ต่างมายืนรวมตัวกันหน้าประตูด่านฯ จนล้นทะลักออกไปแนวถนน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระดมเจ้าหน้าที่จากกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอด ตำรวจจากหลายชุดปฏิบัติการ และทหารจำนวนกว่า 100 นาย มาคอยดูแลควบคุมสถานการณ์ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดตากและจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ได้มีการปรึกษาพูดคุยระดับท้องถิ่น จึงมีมติให้มีการผ่อนผันทำการเปิดด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 เป็นการเฉพาะกิจเพื่อเร่งระบายกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่มารอข้ามแดนกันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องให้สามารถเดินทางข้ามด่านพรมแดนไทย-พม่าได้เป็นการชั่วคราวอีก 1 วันหรือจนกว่าจะหมดไม่มีตกค้าง
ซึ่งสร้างความดีใจให้กลุ่มแรงงานจำนวนมากที่ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตข้ามด่านพรมแดนได้ในเวลาต่อมา และแรงงานทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองตรวจโควิด-19 แบบรายบุคคลโดยละเอียดก่อนที่จะอนุญาตให้ข้ามด่านพรมแดนระหว่างประเทศได้
นายหม่องหน่าย อายุ 40 ปี หนึ่งในแรงงานที่ตกค้างอยู่หน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวและเพื่อนคนงานอีกหลายคนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ซึ่งขณะนี้กรุงเทพฯ ปิดเมืองเนื่องจากมีโรคโควิด-19 ระบาด ตนกับเพื่อนแรงงานก็ไม่มีงานทำและกลัวติดโรคโควิด-19 จึงตัดสินใจขนสัมภาระกึ่งอพยพออกจากที่ทำงานมาลงรถที่ด่านฯ แม่สอดแห่งที่ 2 เพื่อเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดในช่วงที่ประเทศไทยปิดเมืองนานกว่า 14 วัน ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ในประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็จะกลับข้ามเข้ามาทำงานอีกครั้ง
