พิษณุโลก - สาวพิการแขนอ้างเศรษฐกิจไม่ดี-หมดหนทางหาเงินเลี้ยงลูก 2 คน นั่งรถไฟจากนครสวรรค์ทำทีเป็นลูกค้าเข้าร้านทองกลางเมืองพิษณุโลก ก่อนฉวยโอกาสชิงสร้อย 1 สลึง สุดท้ายถูกพลเมืองดีช่วยจับส่งตำรวจ
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้ควบคุมตัวนางวิไลลักษณ์ โพธิรัตน์ อายุ 42 ปี ซึ่งพิการข้อมือแขนขวาด้วน อยู่บ้านเลขที่ 165/2 ม.4 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทองจงลักษณ์ เลขที่ 57/3-4 ถนนนเรศวร ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก แล้ววิ่งหนี แต่ถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวได้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีอาชีพขอทาน และเดินทางด้วยรถไฟฟรีจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา พร้อมกับลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 12 ปี กระทั่งเช้าได้เดินเข้าร้านทองจงลักษณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก แล้วขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ระหว่างที่เจ้าของร้านนำทองออกมาให้ดูจึงอาศัยจังหวะคว้าวิ่งออกจากร้านไปทันที แต่วิ่งไปได้ไม่ไกลก็ล้ม และถูกชาวบ้านในละแวกนั้นช่วยกันจับได้
“ฉันไม่มีรายได้อะไร ก็หวังว่าถ้าชิงทองไปแล้วก็จะนำไปขายเพื่อหาเงินไปลงทุนขายผักอีกครั้ง เพื่อนำเงินไปเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน แต่ก็ถูกจับตัวได้ในที่สุด”
นางจุฑาทิพย์ อัศวชัยวัฒน์ อายุ 61 ปี เจ้าของห้างทองจงลักษณ์ เปิดเผยว่า ตอนนั้นเห็นผู้ต้องหาคนดังกล่าวเดินเข้ามาขอดูสร้อยทองหนัก 1 สลึง ตนก็เริ่มสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ไม่กังวลเพราะทองที่ขอดูราคาไม่มากเท่าไหร่ จึงได้หยิบให้ดู 1 เส้น โดยระวังตัวตลอดเวลา ระหว่างนั้นพูดว่าเอาเส้นนี้แหละ พร้อมกับคว้าสร้อยคอทองคำวิ่งออกไปทันที
เจ้าของห้างทองเผยอีกว่า ตนได้ตะโกนบอกคนในละแวกใกล้เคียงทราบว่ามีคนชิงสร้อยทองคำ กระทั่งมีคนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไล่ตามและควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมสร้อยคอทองคำที่อมไว้ในปาก จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนพิการแขน น่าจะก่อเหตุด้วยความจำเป็นเนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตรวจสอบไม่พบประวัติ โดยเดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ พร้อมลูกอีก 2 คน แต่ก็กระทำผิดวิธี ไม่สมควรเป็นแบบอย่าง น่าจะมีหนทางในการหาเงินที่ดีกว่านี้ เบื้องต้นตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เพื่อติดต่อกับ พมจ.นครสรรค์ มารับตัวลูกผู้ต้องหาไปดูแล และดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาที่เป็นแม่ตามกฎหมายต่อไป