ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ และผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 แถลงจับ 2 มือเผาป่าที่หางดงทำไฟลามผลาญดอยสุเทพ อ้างเผาในพื้นที่ตัวเองตั้งใจทำแนวกันไฟ แต่สุดท้ายคุมไม่อยู่จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง พินาศ 2,500 ไร่
วันนี้ (31 มี.ค. 63) ที่สถานีตำรวจภูธรหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค พร้อม พล.ต.สืบสกุล บัวระวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเผาป่าที่ส่งผลให้เกิดไฟป่าลุกลามในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย รวมทั้งพื้นที่รอยต่อของป่า และชุมชนในพื้นที่ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง ต่อเนื่องกับตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ติดตามสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายศิริ รติพรประเสริฐ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 11 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายกวีพัฒน์ แสนยาเกียรติคุณ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155/2 หมู่ 6 ต.แม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ในข้อหา “ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ”
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการเกิดเหตุไฟไหม้พื้นที่ป่ากว่า 60 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และป่าไม้ต้องระดมกำลังกันหลายร้อยนายเข้าทำการดับไฟ โดยพบว่าต้นเพลิงมาจากการเผาป่าในพื้นที่หมู่ 9 บ้านทุ่งโป่งใต้ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรหางดงให้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบร่องรอยการนำไม้มาวางกองและใช้น้ำมันจุดไฟ จึงสอบสวนและรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับนายศิริ และนายกวีพัฒน์ ในวันนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ แต่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจเผาป่า โดยเพียงแค่จุดไฟเผาบริเวณพื้นที่ตัวเองเพื่อทำแนวกันไฟ แต่เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งทำให้เกิดการลุกลามจนควบคุมไม่อยู่
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหาอาจจะยังให้การปฏิเสธ แต่การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ตามพยานหลักฐานและจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า การจับกุมในครั้งนี้มีหลักฐานชัดเจน ทั้งจุดเกิดเหตุ อุปกรณ์ที่ใช้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิสูจน์หลักฐานที่ชี้ชัดว่าไฟที่ไหม้เริ่มมาจากจุดใด และอย่างไร
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 63 เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยได้จับกุมตัวชายชาวพม่าที่ลักลอบเข้าป่า และจุดไฟจนเกิดไฟป่าลุกลามใกล้กับน้ำตกมณฑาธาร ดำเนินคดีไปแล้ว โดยข้อมูลที่มีการรายงานว่าช่วงที่ผ่านมาที่เกิดไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายแล้วประมาณ 2,500 ไร่ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้ แต่ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังและลาดตระเวนต่อเนื่อง
