ไฟไหม้ป่าดอยสุเทพเริ่มคลี่คลาย จนท.ลุยดับไม่ยั้ง แต่ฝุ่นควันยังหนักค่ามลพิษครองแชมป์โลก

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่หนักคลุมทึบทั้งเมือง ค่ามลพิษอากาศพุ่งครองแชมป์โลกจนชิน ขณะที่ไฟไหม้ป่าดอยสุเทพเริ่มคลี่คลายหลัง จนท.ทุกภาคส่วนระดมกำลังลุยดับทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ แต่ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด


วันนี้ (30 มี.ค. 63) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากในตัวเมืองและระยะไกลได้ตามปกติ ขณะที่ผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 และคุณภาพอากาศพบว่าสูงเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 104 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 105 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 92 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร


ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 214, 215 และ 202 ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 100 ซึ่งมีการแจ้งเตือนและข้อแนะนำประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงให้งดทำกิจกรรมนอกบ้าน นอกจากเว็บไซต์ air visual ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 14.00 น.รุนแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 181 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 114.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ ตรวจพบจุดความร้อนเหลืออยู่เพียง 1 จุดในตำบลบ้านปง อำเภอหางดง ส่วนในเขตตำบลสุเทพ บนดอยสุเทพ ยังคงพบไฟป่าบริเวณวัดผาลาดที่อยู่ใกล้กับน้ำตกมณฑาธาร ซึ่งเป็นพื้นที่ซ้ำซากที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่องมานานนับสัปดาห์ แม้เจ้าหน้าที่จะระดมกำลังเข้าดับไฟอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังเกิดการปะทุขึ้นอีก โดยในวันนี้ทุกภาคส่วนจะบูรณาการกำลังเข้าดับไฟในจุดนี้ให้ดับสนิททั้งหมด ในส่วนของอากาศยาน ทั้งเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ 17 หรือ MI 17 ของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แบบ 32 หรือ KA-32 เตรียมขึ้นปฏิบัติการบินโปรยน้ำดับไฟในช่วงบ่าย ซึ่งขณะนี้พบว่าในพื้นที่อำเภอแม่ริมเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ บ้านแม่สาใหม่ ตำบลโป่งแยง ใกล้เคียงกันถึง 4 จุด ซึ่งถ้าหากในช่วงบ่ายยังไม่สามารถดับได้จะส่งอากาศยานขึ้นโปรยน้ำดับไฟให้ดับสนิทเพื่อไม่ให้ลุกลาม


ด้านอำเภอสะเมิงนั้น ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้จนถึงกลางดึกเกิดไฟป่าลุกไหม้ในพื้นที่บ้านน้ำริน หมู่ 2 ตำบลสะเมิงใต้ ฝ่ายปกครองอำเภอสะเมิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ และชาวบ้านในพื้นที่เข้าช่วยกันควบคุมไฟและทำแนวกันไฟรอบพื้นที่ดังกล่าวเพื่อป้องกันการลุกลาม โดยต้องใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมไฟไว้ได้ในเวลาประมาณ 2 นาฬิกา เบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายประมาณ 100 ไร่ ส่งผลให้เช้าวันนี้มีฝุ่นควันสีขาว PM 2.5 ปกคลุมหนาทึบเหนืออำเภอสะเมิง

จากการรายงานของ Application AIR CMI ที่จังหวัดเชียงใหม่ใช้รายงานค่าคุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 เมื่อเวลา 11.00 น.พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่ 786 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่เช้าวันนี้ดาวเทียมเวียร์ตรวจพบจุดความร้อนจังหวัดเชียงใหม่ 218 จุด ในพื้นที่ 17 อำเภอ 50 ตำบล เป็นจุดลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 24 จุด โดยพบมากที่สุดในอำเภอสะเมิง 40 จุด