ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จนท.ระดมกำลังดับไฟไหม้ป่าดอยสุเทพต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำ หลังไฟยังโหมแรงลุกลามประชิดเมือง เหตุกระแสลมและมีเชื้อไฟสะสมมากทำขยายวงกว้าง ดันค่า PM 2.5 พุ่ง สันนิษฐานต้นตอฝีมือคนเผา
วันนี้ (27 มี.ค. 63) รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยยังคงวิกฤต หนักแม้ว่าเจ้าหน้าที่ไฟป่า อุทยาน อส. และทหารของ มทบ.33 ทีมโดรนอาสา ซึ่งเป็นกำลังหลักในภาคพื้นดิน และยังมีความร่วมมือของกองทัพบกที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีก 1 ลำมาร่วมปฏิบัติภารกิจทางอากาศบินตักน้ำมาช่วยโปรยเพื่อสกัดไฟป่าที่ลุกลาม
ทั้งนี้ จากสภาพอากาศที่ร้อนแล้ง เชื้อไฟเศษกิ่งไม้ใบไม้ที่ทับถมกันจำนวนมาก ประกอบกับช่วงบ่ายวานนี้ (26 มี.ค. 63) มีกระแสลมทำให้ไฟโหมไหม้ขยายวงกว้างได้ต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินนอกจากจะต้องเข้าดับไฟป่าแล้วยังต้องเร่งทำแนวกันไฟในจุดเสี่ยง ซึ่งไฟป่าในส่วนที่โอบล้อมมาจากทางตำบลบ้านปง อำเภอหางดง เข้ามาประชิดเขตตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง บริเวณด้านหลังวัดพระธาตุดอยคำ และเช้านี้ยังมีรายงานว่าทางด้านทิศใต้ของวัดพระธาตุดอยคำยังพบไฟป่าที่ปะทุขึ้นอีกประมาณ 3-4 จุดที่ต้องเร่งเข้าสำรวจ และดับไฟ
โดยไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยครั้งนี้ถือว่าหนักและรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุยังเชื่อว่าเกิดจากฝีมือคนที่จุดไฟเผา โดยก่อนหน้านี้ก็ได้จับกุมตัวชายต่างด้าวที่แอบเข้าไปจุดไฟและนอนในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าลุกลาม และขยายวงกว้างในเขตใกล้กับน้ำตกมณฑาธาร แต่ไฟป่ารอบใหม่นี้เกิดขึ้นทางด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยในเขตตำบลแม่เหียะ อ.เมือง และ ต.บ้านปง อ.หางดง ก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนเช่นเดียวกัน
ขณะที่วันนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเดินทางมาเพื่อตรวจติดตามแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในเวลา 10.20 น. ประชุมผ่านระบบ Video Conference ติดตามสถานการณ์ไฟป่ากับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หลังวัดร่ำเปิง ต.โปทาราม) และในเวลาประมาณ 13.00 น. รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางป้องกันและควบคุมไฟป่าจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดไฟป่า ร่วมกำจัดเชื้อเพลิง และหารือแนวทางการฟื้นฟูสภาพป่า พร้อมมอบของและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
สำหรับไฟไหม้ป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยครั้งนี้ส่งผลให้ควันไฟลอยเข้ามาสะสมตัวในอากาศของเมืองเชียงใหม่ แม้ว่าช่วงนี้จะมีกระแสลมมาช่วยบรรเทาพัดพาฝุ่นควันออกจากพื้นที่ได้ในบางช่วง แต่หากกระแสลมหยุดก็จะพบว่ากลิ่นควันไฟ และฝุ่นควันจากไฟป่าจะรุนแรงมาก ชาวบ้านในหลายพื้นที่ต้องเสี่ยงอันตรายอย่างหนักที่ต้องสูดดมควันไฟเข้าสู่ร่างกาย โดยเช้านี้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษวัดค่า PM 2.5 เมื่อเวลา 08.00 น. ณ สถานีตรวจวัด ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ต.สุเทพ อ.เมือง 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร