ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ไฟป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยวิกฤตหนัก ไฟป่าโหมไหม้ลุกลามในเขตรอยต่ออำเภอเมืองเชียงใหม่-หางดง แม้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งวันทั้งคืนแต่ไฟป่ายังขยายวงกว้างเนื่องจากกระแสลมแรง เตรียมสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ช่วยดับ
วันนี้ (26 มี.ค. 63) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ไฟป่าที่ดอยสุเทพยังขยายวงกว้างต่อเนื่องมานานหลายวันติดต่อกัน แม้ว่ากำลังเจ้าหน้าที่ทางภาคพื้นดินทั้งในส่วนของกรมอุทยานฯ ไฟป่า อส. กู้ภัย ทหาร และชาวบ้านจะช่วยกันเข้าไปดับไฟป่ากันตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ยังปรากฏว่าไฟป่ายังไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าบางจุดจะดับลงแต่กลับปะทุขึ้นใหม่อีกหลายรอบ ส่วนหนึ่งนอกจากอุปสรรคด้านสภาพภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงแล้ว เชื้อไฟจากเศษซากใบไม้กิ่งไม้แห้ง ความแห้งแล้ง รวมไปถึงกระแสลมที่ตั้งแต่ช่วงค่ำ และคืนที่ผ่านมามีลมแรงทำให้ไฟป่าลุกโหมไหม้ขึ้นมาอีก ทั้งเขตรอยต่อของอำเภอเมืองและอำเภอหางดง ตั้งแต่แนวป่าของตำบลแม่เหียะ อ.เมือง และตำบลบ้านปง อ.หางดง ไฟป่าเกือบลามเข้าไปยังวัด และเขตบ้านเรือนประชาชนจนต้องระดมกำลังไปช่วยดับไฟ
ขณะที่ภาพถ่ายจากกลุ่มโดรนจิตอาสา พบว่าเมื่อวานนี้เกิดไฟป่าลุกลามต่อเนื่องมาถึงด้านหลังวัดดอยคำ จนเกิดภาพเปลวไฟโอบล้อมด้านหลังวัดพระธาตุดอยคำ และด้านหน้าคือตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยู่ด้านล่าง ถือเป็นภาพที่สะท้อนสถานการณ์ที่วิกฤตหนัก จนชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ต่างก็ร้องขอให้พิจารณาใช้เฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินในการช่วยโปรยน้ำสกัดไฟป่าร่วมกับการทำงานของภาคพื้นดิน และเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมาทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานขอกำลังทีมโดรนอาสาบินสำรวจเพื่อชี้พิกัดให้กับเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จากกองทัพบกในการเข้าดับไฟ รวมทั้งจะนำเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวนทั้งหมด 3 ลำช่วยสนับสนุนในภารกิจด้วย
สำหรับเช้านี้ จังหวัดเชียงใหม่มีรายงานจุด Hotspot ระบบ VIIRS ตามข้อมูล GISTDA จำนวน 286 จุด ในพื้นที่ 19 อำเภอ 53 ตำบล พบว่าลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 16 จุด โดยไฟไหม้ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเกือบ 1 สัปดาห์ พบว่าทำให้ควันไฟจากไฟป่าลอยเข้ามาสะสมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ จนค่าฝุ่นละอองเดินค่ามาตรฐานมาอยู่ในระดับวิกฤต แม้บางช่วงของวันจะมีกระแสลมช่วยพัดผ่าน แต่พอเข้าช่วงกลางคืนอากาศเย็นที่กดทับทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นควันอีก ซึ่งเช้านี้มีข้อมูลจากแอปพลิเคชัน AirCMI ของจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า ค่า PM 2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อเวลา 07.00 น. พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร