เชียงราย - เครียดซ้ำกันทั้งหมู่บ้าน..ลูกหลานวัยโจ๋กลับจากกรุงเทพฯ พื้นที่เสี่ยงโควิดระบาด ถึงชุมชนบนดอยแม่จันไม่ยอมกักตัวตามกฎ บึ่ง จยย.ร่อนทั่วหมู่บ้าน ห้ามปรามไม่ยอมฟัง นอภ.ต้องยกทีมลงพื้นที่ปรามถึงบ้าน
วันนี้ (29 มี.ค.) นางวันดี ราชคม นายอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพและคลิปทางเฟซบุ๊ก "นายอำเภอแม่จัน วันดี ที่ทำการปกครองอำเภอแม่จัน" ว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจกิ่งสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านรวมใจ ซึ่งเป็นหมู่บ้านบริวารของบ้านสันติสุขว่ามีเด็กหนุ่มสาวกลับมาจากกรุงเทพฯ แต่ไม่ยอมกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งยังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทั่วหมู่บ้านอีก ห้ามปรามตักเตือนก็ไม่ยอมเชื่อฟัง
ล่าสุดชาวบ้านจึงได้แจ้งขอให้นายอำเภอเข้าไปประกาศเสียงตามสายประกาศมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ที่มีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานฯ ซึ่งมีออกมาบังคับใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้วหลายฉบับ และหากฝ่าฝืนก็จะมีโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ
ต่อมานางวันดี พร้อมด้วยปลัด อ.แม่จัน สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านรวมใจและพบปะเยาวชนกลุ่มดังกล่าวเพื่อแจ้งสถานการณ์และความจำเป็นที่ต้องให้ทั้งหมดกักตัว พร้อมให้นายชัยวัฒน์ ชีวินมหาชัย ผู้ใหญ่บ้านฯ เป็นล่ามแปลเป็นภาษาอาข่าเพื่อให้เยาวชนทั้งหมด รวมทั้งให้ชาวบ้านได้รับทราบโดยพร้อมกัน
ซึ่งพบว่าได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก และทางกลุ่มเยาวชนรวมทั้งชาวบ้านรับจะให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี โดยชาวบ้านจะจัดให้มีเวรยามหมู่บ้านทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวด้วย
ด้านกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่ตกค้างอยู่บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางอำเภอฯ จัดให้พักชั่วคราวบริเวณวัดพระธาตุดอยเวา เพื่อรอประสานกับทางการพม่า รวม 48 คนนั้น ล่าสุดทางการพม่าได้เปิดด่านฯ ให้ทั้งหมดข้ามฝั่งกลับประเทศผ่านสะพานมิตรภาพข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แล้ว