xs
xsm
sm
md
lg

หนองคายพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรก ไทม์ไลน์ยาวเหยียดกลับจากทำงานกรุงเทพฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนองคาย - พบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของจังหวัดหนองคาย เป็นหญิงสาวอายุ 30 ปี ทำงานสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ถูกสั่งปิด จึงกลับบ้านที่กาฬสินธุ์ก่อนมาบ้านสามีที่หนองคาย เร่งหาผู้โดยสารร่วมคันรถตู้ตรวจหาเชื้อ ผู้ว่าฯ ยกระดับการป้องกัน

วันนี้ (26 มี.ค. 63) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นพ.วิษณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย, นพ.สุรกิจ ยศพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย, พญ.นรินทิพย์ ฤทธิ์ฐิติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพนพิสัย และ นพ.ไพโรจน์ รัตนะเจริญธรรม รอง นพ.สสจ.หนองคาย ร่วมกันแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 หลังจากพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกของจังหวัดหนองคายแล้ว

ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงสาว อายุ 30 ปี เป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ มีสามีเป็นชาวหนองคายแต่สามีไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยไทม์ไลน์ของหญิงรายนี้ พบว่าเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 63 สถานบันเทิงที่ผู้ป่วยทำงานอยู่ได้จัดงานเลี้ยงก่อนปิดร้านตามมาตรการเฝ้าระวังของกรุงเทพฯ โดยผู้ป่วยไปร่วมงานเลี้ยงฉลองด้วย, เช้าวันที่ 17 มี.ค.ผู้ป่วยเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยรถยนต์ส่วนตัว มีหัวหน้าสถานบันเทิงเป็นคนขับ มีลูกชายหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน รวมคนนั่งในรถ 4 คน ได้แวะที่ ปตท.สระบุรี และ ปตท.นครราชสีมา ถึงกาฬสินธุ์ตอนเย็น,

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
วันที่ 18-22 มี.ค. 63 ผู้ป่วยพักอยู่ที่บ้าน จ.กาฬสินธุ์ โดยในบ้านมีสมาชิกในครอบครัว 5 คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูกของผู้ป่วย 2 คน และตัวผู้ป่วยเอง โดยได้ทราบข่าวว่าเพื่อนร่วมงานที่นั่งใกล้กันในงานเลี้ยงฉลองปิดร้านป่วยโควิด-19, วันที่ 23 มี.ค. 63 ผู้ป่วยได้นั่งรถส่วนตัวของญาติมาส่งขึ้นรถตู้โดยสารที่ อ.ยางตลาด โดยภายในรถของญาติมีคนขับและลูกของผู้ป่วยนั่งมาด้วย จากนั้นได้ขึ้นรถตู้โดยสารสายยางตลาด-อุดรธานี ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งมีผู้โดยสารอยู่เต็มคันรถ เดินทางมาถึง จ.อุดรธานี เวลา 18.00 น.

ผู้ป่วยรออยู่หน้า บขส.อุดรธานีรอเพื่อนขับรถส่วนตัวมารับ ในรถของเพื่อนมีเพื่อนผู้ป่วย ลูกผู้ป่วย และตัวผู้ป่วย นั่งจากอุดรธานีมาที่ อ.โพนพิสัย ถึง อ.โพนพิสัยช่วง 20.00 น. แวะซื้อของร้าน 7-11 ที่ปั๊ม ปตท.โพนพิสัย จากนั้นได้เข้าบ้านของพ่อแม่สามี มีสมาชิกรวม 6 คน วันที่ 24 มี.ค. 63 เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ จึงมาโรงพยาบาลโพนพิสัย ซึ่งผู้ป่วยได้ให้ประวัติอย่างชัดเจนทำให้เจ้าหน้าที่ของ รพ.โพนพิสัยจัดบุคลากรมาดูแลอย่างทันท่วงที

ขณะนี้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่ห้องเนกาทีฟป้องกันแยกโรค โรงพยาบาลโพนพิสัย อาการคนไข้อาการดี ไม่มีอาการหนัก พูดคุยปกติ กินข้าวได้ ปวดหัวเล็กน้อย และไม่มีโรคประจำตัว รวมประวัติผู้ป่วยรายนี้มีผู้สัมผัส 13 คน และมี 2 กลุ่มคนที่สัมผัส คือเพื่อนร่วมงานที่สถานบันเทิง และกลุ่มคนในรถตู้

สสจ.หนองคายกำลังหาข้อมูลผู้สัมผัสทั้งหมดเพื่อประสานกลับไปในพื้นที่ ดังนั้น ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้สายยางตลาด-อุดรธานี ช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 23 มี.ค. 63 ให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อพิสูจน์โรคด้วย ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 13 คนอยู่ระหว่างการกักตัว มีเจ้าหน้าที่ติดตามอาการทุกวัน ส่วนญาติที่ จ.กาฬสินธุ์ ทาง สสจ.จะประสานข้อมูลไปให้ทำการกักตัว ส่วนเพื่อนที่ขับรถจากอุดรธานีมาส่งที่ อ.โพนพิสัย และสถานที่ที่แวะจะมีเจ้าหน้าที่ไปติดตามดูอาการ

ส่วนจุดที่ผู้ป่วยแวะจะทำการเฝ้าระวังพนักงานที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือกับทางร้านให้พนักงานที่ขายของให้หยุดทำงานก่อน การที่ผู้ป่วยไม่ปกปิดข้อมูลทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น ป้องกันตัวเองได้ มีการใช้ชุดป้องกันอย่างเข้มงวด ป้องกันเจ้าหน้าที่อย่างสูงสุด ทางโรงพยาบาลจัดระบบดูแลรักษาที่โรงพยาบาลโพนพิสัย และการส่งต่อ มีการยืนยันความพร้อมของทุกโรงพยาบาลในทุกอำเภอของจังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องรู้และปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการดูแลผู้ป่วย อสม. และ อปท.จะค้นหาเชิงรุกบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้เข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด

ส่วนเครื่องมือ ชุด PPE หน้ากากอนามัย N95 หมวก และอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาด เจลแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งจำเป็นต้องการขอรับบริจาค หากผู้มีจิตศรัทธาต้องการบริจาคให้ติดต่อที่โรงพยาบาลหนองคายเป็นศูนย์กลางที่จะรับบริจาคและกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งจังหวัดหนองคาย


นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า มาตรการที่จังหวัดหนองคายดำเนินการก่อนหน้านี้ทำได้ดีแล้ว หลังจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับใช้ ทางจังหวัดหนองคายได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ ไม่ให้คนเคลื่อนย้าย ให้คนที่เข้ามากักตัวสังเกตอาการเพื่อไม่ให้ไปสัมผัสกับคนอื่นมาก ต้องเพิ่มมาตรการความเข้มงวด ได้สั่งการให้ทุกอำเภอตั้งจุดตรวจในทุกพื้นที่ที่มีความเชื่อมโยงกับจังหวัดอื่น ทั้งถนนสายหลักและถนนสายรอง จะมีกำลังตำรวจ ทหาร อาสาสมัครในหมู่บ้าน ฝ่ายปกครอง อสม. ทำงานร่วมกันเพื่อลดการเคลื่อนย้ายของคน คัดกรองบุคคล

พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดไม่ได้สั่งปิดร้านค้า ร้านอาหาร แต่ขอความร่วมมือกรณีร้านอาหารให้เน้นการซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านแทนการรับประทานที่ร้านทั้งจังหวัด ส่วนจะมีกำหนดเวลาปิดเปิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 หรือไม่ ขณะนี้ยังเปิดได้ตามปกติ แต่หากความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้นก็จะพิจารณาอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น