เพชรบุรี - กรมปศุสัตว์ทำลายซากสัตว์ของกลางลักลอบนำเข้า เป็นเนื้อกระบือแช่แข็งกว่า 190 ตัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (19 มี.ค.) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานพิธีฝังทำลายซากสัตว์ของกลางที่ได้รับมอบและยึดซากสัตว์ลักลอบนำเข้า เป็นเนื้อกระบือแช่แข็งกว่า 186,955 กิโลกรัม โดยมีนางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร กองสารวัตรและกักกัน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธี ณ ศูนย์กักกันสัตว์เพชรบุรี ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
สำหรับการฝังทำลายซากสัตว์ประเภทเนื้อกระบือแช่แข็งของกลางกว่า 186,955 กิโลกรัม สืบเนื่องจากกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ได้ส่งมอบซากสัตว์ประเภทเนื้อกระบือแช่แข็ง จำนวนกว่า 139,400 กิโลกรัม ที่ยึดได้จากการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ ให้กองสารวัตรและกักกันดำเนินการ และเจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานปศุสัตว์อำเภอพระนครศรีอยุธยา และด่านกักกันสัตว์พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบ ดำเนินคดีและยึดซากสัตว์ลักลอบนำเข้าจากห้องเย็นในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวนกว่า 47,555 กิโลกรัม จึงดำเนินการฝังทำลายซากสัตว์ของกลางลักลอบนำเข้ากว่า 186,955 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ทางกรมปศุสัตว์มีความตระหนักถึงการป้องกันเชื้อโรคระบาดสัตว์จากต่างประเทศ ซึ่งอาจติดมากับสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) ที่เป็นพาหะของโรคระบาด มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยสินค้าปศุสัตว์ทุกชนิดที่นำมาจำหน่ายต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับการตรวจรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและผู้บริโภคสินค้าอย่างปลอดภัย มีบทลงโทษปรับไม่เกิน 200,000 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมฝากเตือนผู้ที่กระทำผิดลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย เป็นการไม่ดูแลประชาชนไทย ซึ่งอาจจะทำให้ก่อโรคต่างๆ ตามมาได้ ปัจจุบันนี้เรื่องสุขภาพอนามัยเป็นเรื่องที่สำคัญ ทำผิดเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจของประเทศ ภาคสังคม และด้านกฎหมาย และจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย พร้อมตรวจยึดยานพาหนะที่ใช้ลักลอบขนเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายอีกด้วย