บุรีรัมย์- ชาวบ้านอ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ ผวาเจอซากเครื่องในชิ้นส่วนกระดูกวัวและหมูนับร้อยชิ้นถูกทิ้งปริศนาในฝายน้ำล้นผลิตประปาหล่อเลี้ยง 7 หมู่บ้าน หวั่นเกิดเชื้อโรค ผญบ. รีบแจ้งเทศบาล อำเภอ เข้าตรวจสอบหาแหล่งที่มาและเก็บออกจากแหล่งน้ำ
วันนี้ ( 17 มี.ค. ) ชาวบ้าน หมู่ 3 ตำบลบ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ต่างหวาดผวาหลังมีผู้ลักลอบนำซากเครื่องใน ชิ้นส่วนกระดูกวัว และหมู นับ 100 ชิ้นมาทิ้งในฝายน้ำล้นบ้านด่าน ที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาบริการประชาชน 7 หมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน โดยซากเครื่องใน และชิ้นส่วนกระดูกที่ถูกนำมาทิ้งยังอยู่ในสภาพสดใหม่ น่าจะเพิ่งลักลอบมาทิ้งได้ไม่เกิน 1 - 2 วัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงได้นำมาทิ้ง ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าซากสัตว์ดังกล่าว มีที่มาอย่างไรและติดเชื้อโรคอะไรหรือไม่
จากการสอบถาม นายเสงี่ยม โอสถประสาท อายุ 66 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ตอนเช้าขณะออกไปใส่หมองดักจับปลาที่บริเวณฝายน้ำล้นดังกล่าว เห็นซากเครื่องใน ชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหมู หรือวัว ถูกนำมาทิ้งในน้ำที่ฝายน้ำล้นเป็นจำนวนมาก คาดว่าไม่น้อยกว่า 100 ชิ้น ซึ่งไม่มีว่าเป็นซากสัตว์มาจากไหน ซึ่งนอกจากจะทำให้น้ำสกปรกแล้วยังไม่รู้ว่าจะมีเชื้อโรคหรือไม่ อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบและเก็บออก เพราะน้ำดังกล่าวก็ใช้ผลิตประปาทั้งอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ยังได้ร้องขอให้ผู้ที่นำมาทิ้งได้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวด้วย เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับส่วนรวม
ด้าน นายสายฝน ระวังศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บ้านด่าน ได้กล่าวภายหลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบซากสัตว์ที่ถูกนำมาทิ้งในฝายน้ำล้นดังกล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นซากหมู หรือวัว ของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัด แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงได้นำมาทิ้งในน้ำแบบนี้ แต่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะจะทำให้น้ำสกปรกหรืออาจจะมีเชื้อปนเปื้อนก็เป็นได้ และคาดว่าน่าจะลักลอบนำมาทิ้งตอนกลางคืน ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งให้ทางเทศบาล และอำเภอได้รับทราบแล้วเพื่อจะได้เร่งจัดเก็บออกจากแหล่งน้ำ พร้อมทั้งตรวจสอบหาที่มาของซากสัตว์ดังกล่าว
อยากฝากถึงผู้ที่นำมาทิ้งว่าไม่ควรจะทำแบบนี้เพราะน้ำดังกล่าวต้องใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงทั้งสถานที่ราชการ สถานประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ถึง 7 หมู่บ้าน โดยเฉพาะช่วงนี้ก็ประสบปัญหาภัยแล้งน้ำน้อยอยู่แล้ว ไม่ควรจะนำซากสัตว์มาทิ้งทำให้น้ำต้องสกปรกหรือเสี่ยงติดเชื้อโรคซ้ำเติมไปอีก