xs
xsm
sm
md
lg

ถนนสั้นตำนานยาว! ย้อนรอยประวัติศาสตร์ถนนตรอกโรงยาจากดงขายฝิ่นสู่แหล่งเศรษฐกิจเมืองอุทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุทัยธานี - ถนนคนเดินตรอกโรงยา อุทัยธานี ถนนสั้นตำนานยาวที่ใครมาเป็นต้องร้องว้าวว่าสุดอันซีน จากดงขายฝิ่นเสรีสู่แหล่งเศรษฐกิจกลางเมือง พร้อมย้อนรอยประวัติศาสตร์ธงช้างกลับหัว สู่ธงชาติไทยในปัจจุบัน




ถนนคนเดินตรอกโรงยา หรือถนนสั้นตำนานยาว ที่ทิ้งตำนานเรื่องเล่าอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ของจังหวัดอุทัยธานีที่สามารถสะท้อนเรื่องราวและบรรยากาศของความเป็นเมืองอุทัยธานีได้เป็นอย่างดี ถนนคนเดินเล็กๆ ที่กว่าจะเป็นตลาดโบราณสุดอันซีนเช่นนี้ หากย้อนไปหลายสิบปีก่อนนี้สถานที่แห่งนี้เคยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนจำนวนมาก ทั้งเป็นแหล่งสูบฝิ่นที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีผู้คนมาซื้อขายและสูบฝิ่นกันอย่างเสรี ทำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเรียกตรอกนี้จนติดปากว่า “ตรอกโรงยา”

ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2500 รัฐบาลได้ประกาศให้ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย ทำให้ตรอกโรงยาแห่งนี้ซบเซาลงจนกลายเป็นบ้านเรือนธรรมดาๆ กระทั่งได้ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยการเคหะแห่งชาติได้ให้คณะอาจารย์สถาปัตย์มหาวิทยาลัยนเรศวรดำเนินการสำรวจสภาพเมืองอุทัยธานี ทางคณะอาจารย์ได้มีแนวคิดว่าน่าจะจัดทำถนนคนเดินขึ้นในจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ. 2553 ถนนคนเดินตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยวกั้งจึงได้เริ่มก่อตั้งจากการรวมตัวของคณะกรรมการทั้ง 15 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี


กลุ่มรักษ์อุทัย และพี่น้องชาวชุมชนตรอกโรงยา นำโดย นายปฏิญาณ วงศ์กาญจนา และได้รับการสนับสนุนจาก นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ในสมัยนั้นร่วมกันจัดขึ้น และเปิดตลาดครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 จนทำให้กลายเป็นถนนคนเดินกลางเมืองอุทัยธานีที่ยังคงทิ้งร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีตผ่านบ้านไม้เก่าแก่ ที่ได้ถูกปรับปรุงกลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึก

จนทำให้ตรอกโรงยาที่เคยเงียบเหงากลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่สำคัญ พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของที่ตรอกโรงยานั้นจะต้องเป็นคนจังหวัดอุทัยธานีเท่านั้น โดยที่นี่จะไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ที่เคยเป็นมา เพื่อให้ลูกหลานรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพื่อเรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชุมชน


ถนนคนเดินตรอกโรงยาแห่งนี้เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็น ไปจนถึง 2 ทุ่ม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุทัยธานี ไม่ไกลจากตลาดสดริมน้ำสะแกกรัง สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนไม้สุดคลาสสิก ซึ่งในทุกวันเสาร์จะคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินจับจ่ายซื้อหาของกินมานั่งกิน และซื้อกลับไปกิน ซึ่งมีทั้งอาหารคาว หวาน ขนมโบราณ ของฝาก ของที่ระลึก ของพื้นบ้าน และของโบราณต่างๆ มากมาย เช่น ของกินขึ้นชื่นที่ใครมาเป็นต้องสะดุดกันตั้งแต่ปากทาง

อย่าง ร้านหมูสะเต๊ะเจ้าดัง หรือหมูสะเต๊ะคุณอ้อ หรือที่เรียกกันว่า หมูสะเต๊ะ 100 คิว ที่ใครเข้ามาซื้อเป็นต้องฉงนกับบัตรคิวและผู้คนที่นั่งรอรับหมูสะเต๊ะกันแบบใจจดใจจ่อ ด้วยเพราะหมูสะเต๊ะเนื้อนุ่มที่ย่างสดใหม่จากเตา กินพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน พร้อมอาจาด หากใครพลาดวันเสาร์นี้ก็ต้องรอไปกินอีกทีในวันเสาร์หน้า เพราะร้านหมูสะเต๊ะร้านนี้ไม่มีหน้าร้าน และเปิดขายเพียงแค่ทุกวันเสาร์ที่ถนนคนเดินตรอกโรงยาแห่งนี้ เท่านั้น ซึ่งทางร้านจะมีหมูสะเต๊ะไว้รองรับลูกค้าครั้งละประมาณ 8,000-9,000 ไม้ ซึ่งเรียกได้ว่าขายดี และขายหมดกันทุกสัปดาห์


ด้านขนมอาหารกินเล่นแบบโบราณอย่าง ขนมผักกาด ในราคา 20 บาท ซึ่งร้านตั้งอยู่ใกล้กับร้านหมูสะเต๊ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านขนมกินเล่นที่ใครมาเป็นต้องแวะซื้อไปลอง ด้วยเนื้อของแป้งที่นุ่มและน้ำจิ้มรสดี ทำให้มีรสชาติที่เข้ากัน รวมไปถึงเมนูกับข้าว ซึ่งมีทั้งเมนูพื้นบ้าน อย่างแกงบอน ปลาต้มเค็ม และอื่นๆ ให้ได้เลือกซื้อหากันเยอะมาก รวมไปถึงอาหารแห้ง อย่างปลาเกลือ ปลาเค็ม ปลาย่าง ที่ถูกแปรรูปมาให้ได้เลือกซื้อกินกันแบบสดใหม่อีกเช่นกัน


ในส่วนเอกลักษณ์สำคัญไม่แพ้ของกิน อย่าง บ้านนกเขา ซึ่งเป็นบ้านที่สะสมภาพเก่าอุทัยธานี และสถานที่ต่างๆ รวมทั้งของใช้และสิ่งของที่ส่วนใหญ่ทุกคนเคยใช้กันในอดีต ซึ่งเจ้าของบ้านคือ นายปราโมช เลาหวรรณธนะ อายุ 58 ปี ได้รวบรวมสิ่งของสะสมเหล่านี้ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยที่ตนเองยังอยู่กับอากง รวมทั้งที่ได้จากการสะสมต่างๆ โดยได้นำสิ่งของมาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชื่นชมและสัมผัส ทั้งยังให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ อันเป็นการปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ โดยจัดแสง สี บรรยากาศทั้งภายใน ภายนอกร้าน ให้เข้ากับบรรยากาศยิ่งขึ้น โดยที่บริเวณหน้าร้านจะจัดให้เป็นมุมถ่ายภาพแบบย้อนยุค รวมทั้งมีที่นั่งสำหรับพัก อีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น