ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือ ยันกักตัวผีน้อยเกาหลีที่สัตหีบ 188 คน ใช้มาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 เต็ม 100% วอนชาวสัตหีบมั่นใจ ทั้งเตรียมเปิดแอป Navy Land ส่งเสริมท่องเที่ยว ด้านคนพื้นที่เริ่มต้านเหตุนำกลุ่มเสี่ยงเข้าต่อเนื่องทำค้าขายซบ
เย็นวานนี้ (9 มี.ค.) พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ พร้อมด้วย น.ต.หญิงปฐวี บุญตานนท์ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ และ ดร.สถิระ เผือกประเสริฐ ส.ส.ชลบุรี เขต 8 ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าและแผนการปฏิบัติภารกิจควบคุมและดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งเข้ามาพักที่อาคารรับรอง กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ ศูนย์บัญชาการฯ ฐานทัพเรือสัตหีบว่า ปัจจุบันแม้จะมีการระบาดในหลายประเทศแต่ข้อมูลอัตราการเสียชีวิตยังคงอยู่ที่ประมาณ 1-2% เท่านั้น
ส่วนกรณีที่ประชาชนในพื้นที่ อ.สัตหีบ มีความเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าวจากการที่มีชาวไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามากักตัวอยู่ในพื้นที่ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนถึง 188 คนนั้น ข้อเท็จจริงของการติดโรคโควิด-19 สามารถติดต่อกันได้ 2 ทาง คือ 1.ทางละอองฝอย หรือการไอจาม ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 5 ไมครอน และมีระยะไกลเพียง 1 เมตร โดยไม่มีการฟุ้งกระจายในอากาศ
และ 2.การสัมผัส ซึ่งเกิดได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง และใส่หน้ากากอนามัย
โดยขณะนี้ประเทศไทยมีการจำกัดการแพร่ระบาดอยู่ในระยะที่ 2 และพยายามป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เข้าสู่ระยะที่ 3 หรือการระบาดแบบไร้ทิศทาง จึงจำเป็นต้องจัดสถานที่เพื่อนำกลุ่มบุคคลเสี่ยงเข้ามากักตัว และไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในชุมชน ซึ่งกรณีนี้รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่มีหน้าที่ดูแลด้วย
พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ยังแสดงความเห็นเรื่องเหตุกังวลใจของคนในชุมชนสัตหีบ เรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวว่า กองทัพเรือ ให้ความสนใจและพยายามประชุมร่วมหารือและพบปะกับประชาชนในชุมชนมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่า การคุมตัวและเฝ้าระวังคนในกลุ่มเสี่ยงยังคงมีมาตรการที่เข้มข้นและจริงจังเช่นเดียวกับการกักตัวคนไทยจากอู่ฮั่น และจะไม่มีการเล็ดลอดออกมาภายนอกหรือปล่อยให้มีการออกมาสร้างปัญหาให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยเด็ดขาด
และในเร็วๆ นี้ กองทัพเรือจะจัดทำแอปพลิเคชัน Navy Land “ดินแดนท่องเที่ยวพื้นที่กองทัพเรือ” เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวใน อ.สัตหีบ เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวประชาชนในพื้นที่ และจะเปิดให้ประชาชนได้ดาวน์โหลดแอปดังกล่าวตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป
ชาวสัตหีบชี้ทัพเรือไม่เคยถามความเห็นหลังนำกลุ่มเสี่ยงเข้าพื้นที่ต่อเนื่องถึง 2 เหตุการณ์
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามความเห็นของชาวบ้านใน อ.สัตหีบ ถึงความมั่นใจเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกองทัพเรือ ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก นางศรุดา ศรีชุมพล อายุ 63 ปีว่าตนเองไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกที่จะให้มีการนำแรงงานไทยที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ เข้ามากักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการในพื้นที่
เนื่องจากอาคารรับรองของฐานทัพเรือสัตหีบ อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและตลาด จึงอยากให้กองทัพเรือใช้พื้นที่เกาะอื่นๆ ใน อ.สัตหีบ หรือพื้นที่ที่มีบริเวณรั้วรอบขอบชิดกว่าอาคารรับรอง
เนื่องจากประชาชนในพื้นที่เกรงว่าเชื้อไวรัสจะแพร่กระจาย เพราะเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ใช่แค่เชื้อหวัดธรรมดา อีกทั้งกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้บางคนมีจิตสำนึก บางคนก็ไม่มีจิตสำนึกในการปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงให้แก่คนในประเทศอย่างเช่นที่เห็นเป็นข่าว จึงหวั่นว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่คนสัตหีบในระยะยาวโดยเฉพาะเรื่องการค้าขายที่อาจซบเซา
เช่นเดียวกับชาวสัตหีบอีกราย เผยว่า ในครั้งแรกที่รัฐบาลนำตัวคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่น เข้ามากักตัวเพื่อรอดูอาการในพื้นที่ ชาวสัตหีบ ยอมรับได้เพราะเห็นใจคนไทยด้วยกัน แต่หลังจากชาวไทยจากอู่ฮั่นกลับไปแล้ว ชาวสัตหีบ ก็ได้รับผลกระทบจากการค้าขายเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาและสภาพเศรษฐกิจเริ่มแย่และได้รับผลกระทบ
ด้าน นายวิเชียร วัฒน ประธานชุมชนชายทะเล เทศบาลเมืองสัตหีบ กล่าวว่าชุมชนชายทะเลสัตหีบ เป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ตลาดและอยู่ห่างจากศูนย์เฝ้าระวังไม่ถึง 1 กิโลเมตร และประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายจึงอยากให้รัฐบาล หรือกองทัพเรือคำนึงถึงความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ด้วย
