มุกดาหาร - ศุลกากรมุกดาหารตรวจยึดหน้ากากอนามัยลักลอบนำเข้า 3 คดี รวมกว่า 79,000 ชิ้น พบไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ คาดลักลอบนำเข้าจากประเทศเวียดนามเพื่อส่งต่อให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก
วันนี้ (9 มี.ค. 63) นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีนายทุนลักลอบนำหน้ากากอนามัยจากประเทศเวียดนามเข้ามาทางตะเข็บชายแดนด้านจังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ชั้นในโดยรถโดยสารประจำทาง จึงได้สั่งการให้นายณัฐพงศ์ หนูสมตน นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากร ร่วมวางแผนแล้วแบ่งชุดจับกุมออกเป็น 3 ชุดลงพื้นที่ที่ได้รับแจ้งจากสายดังกล่าว
กระทั่งเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรได้ตรวจพบรถโดยสารหน้าบริษัทนครชัยแอร์ บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร พบกล่องกระดาษจำนวน 13 กล่องใหญ่ ภายในกล่องเป็นหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 650 กล่องเล็ก (กล่องละ 50 ชิ้น) รวมทั้งหมด 32,500 ชิ้น ยี่ห้อ NAM VIET ผลิตจากประเทศเวียดนาม
สอบถามนายชัชพงศ์ พิพัฒน์ชยเดช เด็กประจำรถทัวร์โดยสาร กล่าวว่า ได้มีคนนำของมาฝากเพื่อส่งต่อไปให้ผู้รับที่กรุงเทพมหานคร และไม่มีเอกสารการเสียภาษีแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหารชุดที่ 2 ได้ตรวจพบสิ่งของที่บรรทุกมากับเรือโดยสารข้ามฟากที่บริเวณด่านท่าเทียบเรือท่าข้ามเทศบาลเมืองมุกดาหาร ตรวจสอบเป็นหน้ากากอนามัย ยี่ห้อ FAMAPRO ผลิตในประเทศเวียดนาม จำนวน 450 กล่อง (กล่องละ 50 ชิ้น) รวม 22,500 ชิ้น สอบถามเจ้าของเรือบอกว่ามีคนลาวได้เอาสิ่งของดังกล่าวมาฝากแล้วจะมีคนไทยมารับของดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดหน้ากากอนามัยทั้งหมดมาที่ด่านศุลกากรเพื่อตรวจนับและทำการบันทึก
ส่วนเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดที่ 3 ได้ตรวจพบสิ่งของที่ช่องเก็บสัมภาระผู้โดยสารบนรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ หมายเลขทะเบียน บก 7979 กำแพงนะคอน พบเป็นหน้ากากอนามัย ยี่ห้อ QUOC BAO ผลิตจากประเทศเวียดนาม จำนวน 480 กล่อง (กล่องละ 50 ชิ้น) รวม 24,000 ชิ้น และไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดหน้ากากอนามัยมาที่ด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อทำการบันทึกการจับกุม
เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรได้แจ้งข้อกล่าวหา สิ่งของดังกล่าวเป็นสิ่งอันพึงต้องริบตามกฎหมาย ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาจมีความผิดมาตรา 242, 244, 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2560 ประกอบกับมาตรา 166, 167 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงบันทึกตรวจยึดของกลางเป็นหน้ากากอนามัยทั้งหมด จำนวน 79,000 ชิ้น นำส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยที่ตรวจยึดทั้งหมดภายใน 30 วัน หากไม่มีผู้มาแสดงตน หรือมาติดต่อเป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าวก็จะตกเป็นของแผ่นดิน และจะได้นำไปจำหน่ายแก่ประชาชนต่อไป