ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กองทัพบกจัดเครื่องบินสำรวจพื้นที่เหนืออำเภอเชียงดาวหลังเกิดการเผาป่าหนัก คืนที่ผ่านมาเจอจุดความร้อนมาก 32 จุด ล่าสุดพบ จนท.ดับได้เกือบหมด แต่ระหว่างเส้นทางบินเจอเผาและลุกลามอีกเพียบทั้งแม่แตง, สันทราย, พร้าว, ดอยสะเก็ด และสันกำแพง รายงานข้อมูลเข้าศูนย์แก้ปัญหาวางแผนทำงาน
ช่วงเช้าวันนี้ (9 มี.ค. 63) นักบินนำเครื่อง Cessna 172 ของหน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้ภารกิจสนับสนุนกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ขึ้นบินสำรวจพื้นที่เหนืออำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่ความสูงราว 6,500 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ในเขตพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังข้อมูลดาวเทียม GISTDA ระบบ VIIRS รายงานพบจุดความร้อน หรือ Hotspot ให้พื้นที่ของช่วงคืนที่ผ่านมามากถึง 32 จุด โดยเบื้องต้นพบว่าหลายจุดเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินสามารถดับได้เกือบทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ในอีกหลายจุดตามเส้นทางการบินสำรวจในพื้นที่อำเภอแม่แตง สันทราย พร้าว ดอยสะเก็ด และอำเภอสันกำแพง พบกลุ่มควันในลักษณะที่กำลังเริ่มไหม้และลุกลาม
ทั้งนี้ ในการปฏิบัติภารกิจ นักบินจะรายงานทั้งพิกัด ทิศทางลม และสภาพพื้นที่แบบเรียลไทม์เข้าไปยังศูนย์บัญชาการแก้ปัญหาฝุ่นควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน โดยเฉพาะศูนย์บัญชาการส่วนหน้าฯ ในแต่ละอำเภอ ทีมอาสาดับไฟ รวมถึงทีมร่มบินจิตอาสาในการเข้าสำรวจ ระงับเหตุ และป้องปราม ขณะเดียวกันมีรายงานว่า วันนี้กองทัพอากาศได้ส่งเครื่อง AU23 พีซเมกเกอร์( Peacemaker) เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ “Set Zero” โดยใช้วิธีกระจายเสียงประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อแจ้งเตือน และการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย 5 อำเภอ คือ เชียงดาว ฝาง ไชยปราการ และอำเภอพร้าวอีกด้วย
สำหรับสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่วันนี้ (9 มี.ค. 63) พบว่ายังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินมาตรฐานทั่วทุกพื้นที่ โดยรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษในตำบลช้างเผือกและตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 65 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 52 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 137 และ 104 ตามลำดับ ซึ่งระดับคุณภาพอากาศถือว่าอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว