วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่เชื่ออย่างรุนแรงและรวดเร็ว เป็นเหตุทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันปัญหากลุ่มควันจากไฟป่าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์เป็นอีก 1 ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว เป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดนด้านตะวันตกชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าบริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมบรรยากาศในยามเช้าไม่มากนัก ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ ปกติในทุกๆเช้าจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญตักบาตรตามวีถีมอญ และเลือกเดินชิมอาหารพื้นเมือง รวมทั้งเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเพื่อนำกลับไปเป็นของฝาก ปัจจุบันเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
และที่สำคัญ พบว่ามีร้านค้าหลานร้านเริ่มทยอยปิดตัวลง โดยเลือกที่จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิยต์ โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่ตั้งอยู่บริเวณใต้สะพานมอญ ส่วนร้านค้าที่ยังเปิดขาย ก็มียอดขายที่ลดลง
ทั้งนี้ น.ส.ภคพร วรินทร์ เจ้าของร้านขายเครื่องประดับ และจิวเวอรี่ ตั้งอยู่เชิงสะพานไม้ฯฝั่งชุมชนบ้านวังกะเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเช้า ถึงแม้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่ขาดสาย ทำให้ร้านค้าต่างๆที่มีอยู่ มีรายได้จากการขายสินค้าของตนเองเป็นจำนวนมาก
แต่หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยก่อนหน้านี้ช่วงเช้าเคยขายของที่ระลึกได้ 3-4000 บาท แต่ปัจจุบันลดลงเหลือหลักร้อยบาทเท่านั้น จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ร้านค้าหลายแห่งเลือกที่เปิดให้บริการเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียว ชมรมเรือนำเที่ยวเทศบาลตำบลวังกะ ที่จอดให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวชมบรรยากาศบริเวณโบสถ์จมน้ำ วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ต่างต้องจอดเรือเอาไว้ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการบางรายต้องเดินหาลูกค้าด้วยตนเอง
โดยผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดจำนวนลงมานานกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากเกิดปัญหากลุ่มควันพิษจากไฟป่า และปัญหาการระบาดขอไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้านี้นั้น ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวได้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างน้อยวันละ 2-3 เที่ยว แต่ปัจจุบันเหลืออาทิตย์ละ 1-2 เที่ยวเท่านั้น ถึงแม้กลุ่มควันพิษจากไฟป่าเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ทราบว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆในพื้นที่ จากที่เคยเต็มเกือบทุกวัน ปัจจุบันยอดจองลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาและจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยว เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่ สามารถสร้างรายได้กว่า 2-300 ล้านบาทต่อปี และการท่องเที่ยวยังสร้างงาน สร้างรายได้กระจายไปในทุกภาคส่วนอีกด้วย หากสภาพนักท่องเที่ยวยังคงเป็นแบบนี้ มีแนวโน้มที่ธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องในการท่องเที่ยว ต้องปิดตัวลงแน่นอน
