อุบลราชธานี - ชาวประมงรอบเขื่อนสิรินธรห่วงโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์แบบทุ่นลอยน้ำ ลงทุนกว่า 2.26 พันล้านบาท ทำอาชีพประมงล่มสลาย ร้องนายอำเภอสิรินธรขอค่าชดเชยและให้ชาวบ้านใช้ไฟฟ้าตลอด 25 ปี
วันนี้ (25 ก.พ. 63) ที่หน้าที่ว่าการอำเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี มีชาวบ้านหัวสะพาน หมู่ 2 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร ประมาณ 50 คน ซึ่งประกอบอาชีพหาปลา จัดล่องแพอาหารในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร มายื่นหนังสือต่อ นายสนอง มาลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร เพื่อขอความชัดเจนการทำโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื้อที่ 450 ไร่ โดยเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำใหญ่ที่สุดในโลก ใช้งบลงทุนกว่า 2,265 ล้านบาท มีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้ากว่า 87 ล้านหน่วยต่อปี
นายรำไพ แสนอ้วน อายุ 48 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มายื่นหนังสือ อ้างว่า เหตุที่มายื่นหนังสือเพราะเกรงได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ เพราะพื้นที่จับปลาและล่องแพอาหารน้อยลง รวมทั้งกลัวคลื่นความร้อนจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า จึงต้องการให้ชี้แจงความชัดเจน พร้อมเรียกร้องขอค่าเสียโอกาสในการประกอบอาชีพครัวเรือนละ 9,000 บาทต่อเดือน หรือปีละ 108,000 บาท เป็นเวลานาน 25 ปี พร้อมให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟฟ้าฟรีตลอดไปด้วย
ทั้งนี้ นายสนอง มาลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร ได้เชิญชาวบ้านมาพูดคุยหารือ ก่อนรับหนังสือนำส่งให้ผู้ใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานีนำไปพิจารณาอีกครั้ง
ด้านนายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงเรื่องที่ชาวบ้านมายื่นหนังสือขอความชัดเจนเรื่องผลกระทบจากโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ว่า สำหรับพื้นที่ที่ใช้ทำโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังความร้อนของโซลาร์เซลล์เป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนสิรินธร ซึ่งเป็นพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว
แต่ที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้เปิดให้ชาวบ้านมาใช้พื้นที่ด้านประมงด้วยการจับปลาในเขื่อน และใช้เป็นเส้นทางการสัญจรทางน้ำ แม้จะมีการวางแผงโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์เต็มที่ ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้จับปลาได้อีกมาก
ที่ผ่านมาการไฟฟ้าฯ มีโครงการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้สัตว์น้ำ โดยได้ปล่อยสัตว์น้ำลงในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งการวางแผงโซลาร์เซลล์ไม่ส่งผลกระทบต่อพันธุ์สัตว์น้ำลดลง แต่อาจส่งผลดีต่อด้านใต้ของโครงการ จะทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ อนาคตจะมีสัตว์น้ำได้เติบโตเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เพิ่มขึ้นอีก
ส่วนเรื่องข้อกังวัลปัญหาคลื่นความร้อนจากแผงโซลาร์เซลล์ที่นำมาวางจำนวนมากนั้น ตามหลักวิศวกรรมเป็นแผงชนิดไม่สะท้อนความร้อน และเป็นแผงที่ได้มาตรฐานที่มีใช้อยู่ตามบ้านเรือนทั่วไป จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของคลื่นความร้อนตามที่ชาวบ้านกังวล ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อมีการลงพื้นที่สร้างอาชีพเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบอ่างเก็บน้ำ การไฟฟ้าฯ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับโครงการนี้มาตลอด ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจดี
ส่วนข้อเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยค่าเสียโอกาสทำประมงให้แก่ชาวบ้านรายละ 9,000 บาทต่อเดือน คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพื้นที่ทำโครงการอยู่ในพื้นที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่ได้ไปใช้พื้นที่ของเอกชนรายใด แต่ที่ผ่านมาได้เปิดให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบอ่างได้เข้ามาใช้ประโยชน์แบบสร้างสรรค์ ทั้งประกอบอาชีพจับปลา แพอาหาร หรือจัดให้มีการล่องแพในอ่างเก็บน้ำ