จันทบุรี - อานิสงส์งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ ทำยอดจองห้องพักในพื้นที่ จ.จันทบุรี และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเขตตัวเมืองเต็มหมด คาดเงินสะพัดช่วง 60 วัน สูงกว่า 100 ล้าน
วันนี้ (25 ก.พ.) น.ส.วนิชา พัฒนพงษ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ว่า ได้รับอานิสงส์จากงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยอดจองห้องพักในโรงเรม รีสอร์ต เเละโฮมสเตย์ต่างๆ ที่มีอัตราการจองเต็มหมด
เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกกระทิง น้ำตกคลองไพบูลย์ และน้ำตกพลิ้ว พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพักผ่อนและพักค้างคืนเพิ่มมากขึ้น
และยังทำให้ร้านขายของฝากและผู้ค้าผลไม้มียอดจำหน่ายที่เติบโตตามไปด้วย โดยคาดการท่องเที่ยวของจังหวัดในช่วงงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง จ.จันทบุรี ตั้งแต่ 25 ม.ค.-24 มี.ค.นี้ จะมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ขณะที่บรรยากาศการเดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนเขาคิชฌกูฏ พบว่า ยังคงมีผู้แสวงบุญ ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางสู่ยอดเขาเพื่อกราบไหว้ขอพร และนมัสการรอยพระพุทธบาทตั้งแต่วันแรกของการเปิดงานเป็นจำนวน 468,026 คนแล้ว
โดยเฉพาะวันมาฆบูชาที่ผ่านมา และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีผู้แสวงบุญและประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสลับเวลาให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ขอพรรอยพระพุทธบาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเวลาที่ประชาชนนิยมเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา คือ ช่วงเวลา 24.00-08.00 น. ซึ่งในปีนี้คณะสงฆ์ และกองทุนนิธิพระพุทธบาทพลวง ได้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันรณรงค์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และให้เตรียมน้ำดื่ม อาหาร รวมทั้งยารักษาโรคติดตัวก่อนขึ้นไปบนยอดเขาด้วย
สำหรับรอยพระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนลานหินกว้างที่มีหินลูกบาตรคอยให้ร่มเงาบนยอดเขาที่มีความสูงจากน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ถือเป็นยอดเขาที่สูงสุดในประเทศไทยและรอยพระพุทธบาทยังอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าเขา สร้างความอิ่มเอมใจแก่ผู้มาเยือน
โดยคณะกรรมการฯ ได้จัดรถบริการขึ้นลงเขา ในราคารวม 200 บาทต่อคน และจะมีค่าบริการเข้าอุทยานฯ สำหรับชาวไทย 20 บาท เด็ก 10 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 100 บาท เด็ก 50 บาท