xs
xsm
sm
md
lg

เกสต์เฮาส์เชียงใหม่ครวญโดนหนักพิษ “โควิด-19” ลูกค้าหดเหลือ 10%-มี.ค.จ่อเป็นศูนย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มผู้ประกอบการเกสต์เฮาส์ที่พักรายย่อยเชียงใหม่ครวญโดนหนักพิษ “โควิด-19” เหลือลูกค้าพักแค่ 10% แถมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ตกค้างกลับไม่ได้ แต่ตั้งแต่ต้น มี.ค.63 เป็นต้นไปจ่อแทบจะเป็นศูนย์เพราะลูกค้าใหม่ยกเลิกหมด


นายวีระวิทย์ แสงจักร ประธานกลุ่มล่ามช้าง และผู้ประกอบการเกสต์เฮาส์ที่พักย่านชุมชนล่ามช้าง ในตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน และอีกหลายประเทศที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่เสี่ยง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบการที่พักรายย่อยย่านชุมชนล่ามช้างที่มีประมาณ 200 ราย จำนวนห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง ช่วงนี้มีอัตราการเข้าพักเพียงประมาณ 10% เท่านั้น จากการที่ถูกยกเลิกการจอง ซึ่งลูกค้าที่พักอยู่ในเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับได้ โดยตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค. 63 เป็นต้นไปคาดว่าอัตราการเข้าพักแทบจะเป็นศูนย์แล้ว จากการที่ไม่มีการจองเข้ามาใหม่เลย และลูกค้าที่ตกค้างอยู่จะทยอยกลับ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้นคิดเป็นสัดส่วนมากถึงประมาณ 80-90% ทั้งที่ในช่วงนี้ควรจะคึกคักเพราะเป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้นไม่ใช่แค่เพียงนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้นที่หายไปเกือบหมด แต่ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปด้วยที่ไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้เพราะสายการบินต่างๆ ยกเลิกเที่ยวบิน


จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต้องยอมรับว่าไม่สามารถประเมินได้ว่าจะยาวนานเพียงใด โดยอาจจะนานถึง 6 เดือนหรือมากกว่านั้น และคงจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งค่อนข้างนานกว่าที่จะฟื้นสถานการณ์กลับมาใกล้เคียงเหมือนเดิมได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างต้องแบกรับภาระอย่างหนัก เพราะไม่มีรายรับเข้ามา แต่มีรายจ่ายสม่ำเสมอ ทั้งค่าจ้างพนักงาน และหนี้สินเงินกู้ประกอบธุรกิจ

จากการที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในขณะที่ไม่มีรายรับเข้ามานั้น มองว่าอาจจะนำไปสู่ความจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องให้พนักงานหยุดพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง รวมทั้งเลิกจ้างและเลิกกิจการในที่สุดหากสถานการณ์เลวร้ายยาวนาน ซึ่งมองว่าแนวทางบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นทางภาครัฐควรจะมีการออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

เช่น การให้สถาบันการเงินลดอัตราดอกเบี้ยหรือพักชำระหนี้ เป็นต้น ส่วนมาตรการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยนั้น มองว่าคงไม่ช่วยอะไร เพราะเชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยส่วนใหญ่เองได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและระวังการใช้จ่ายกันอยู่แล้วคงไม่พร้อมจะท่องเที่ยวมากนัก

ขณะที่จัดโปรโมชันลดแลกแจกแถมต่างๆ เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น เชื่อว่าไม่ได้ผล เพราะประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่พร้อมและไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นศูนย์ ขณะที่อเมริกาและยุโรปลดลงไป 80-90% ฉะนั้นต่อให้ลดราคาหรือมีโปรโมชันดีเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่สามารถขายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น