หนองคาย - สามี “กำนันเตี้ย” กำนันนักพัฒนาแห่งเมืองหนองคาย น้ำตาคลอ ดีใจตำรวจตามจับมือปืนสังหารภรรยาได้สำเร็จ ถามจิตใจทำด้วยอะไร อยากให้มาขอขมาหน้ารูปกำนัน แต่ยังไม่ขอพูดถึงประเด็นถูกลอบสังหาร
จากกรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทำทีไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลังที่บ้านนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือกำนันเตี้ย กำนันตำบลผาตั้ง ที่บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย แล้วใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงศีรษะจนเสียชีวิตคาห้องครัว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย 14 วัน จนสามารถจับผู้ต้องหา 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ปมสังหารมาจากความขัดแย้งเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่ ต.ผาตั้ง ที่กำนันเตี้ยเข้าไปเกี่ยวข้องในบทบาทเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้อีกฝ่ายเสียผลประโยชน์
หลังจากมีการจับกุมคนร้ายได้แล้ว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของกำนันเตี้ย ซึ่งพบว่า นายพิเดช วงค์ศิริ สามีกำนันเตี้ย และญาติพี่น้องได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพกำนันเตี้ยไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา และเพิ่งจะมีการเก็บเถ้ากระดูก ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และเก็บบ้านเมื่อเช้าวันนี้ (15 ก.พ. 63)
นายพิเดช วงค์ศิริ เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวหลังจากทราบว่าตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาฆ่าภรรยาของตนเองได้แล้ว โดยพูดทั้งน้ำตาว่า ภูมิใจมากที่ตำรวจติดตามคดีนี้จนสามารถจับคนร้ายได้ ตนอยากให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิต ตนคอยจุดธูปบอกกำนันเตี้ยตลอดให้ช่วยดลใจตำรวจให้จับคนร้ายได้ อยากรู้ว่าใครเป็นคนบงการฆ่า จิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงทำกับภรรยาตนอย่างนี้
อยากให้มาขอขมาต่อหน้ารูปภรรยาและต่อหน้าตนเอง ส่วนปมสังหารยังไม่อยากพูดถึง ขอฟังจากปากตำรวจก่อนว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
ขณะที่ชาวบ้านดงต้องที่ทราบว่าตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้นต่างพากันดีใจและขอบคุณตำรวจ ชื่นชมการทำงานของตำรวจที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลัง อยากให้คนร้ายได้รับโทษประหารชีวิต เนื่องจากกำนันเตี้ยเป็นคนดี แต่ต้องมาตายเพราะการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้แก่ประชาชน หลังจากเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันชาวบ้านไม่กล้าที่จะไปสวนยางพารา ไม่กล้าไปทำไร่ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แต่เมื่อจับคนร้ายได้แล้วก็โล่งใจมาก
