xs
xsm
sm
md
lg

"จตุพร" ชี้ทหารคลั่งกราดยิงประชาชน เหตุความเหลื่อมล้ำในสังคมทหาร จี้ ผบ.ทบ.รับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - ได้ที! "จตุพร" สับเหตุทหารคลั่งกราดยิงประชาชนที่โคราช เกิดจากปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมทหาร จี้ ผบ.ทบ.แสดงความรับผิดชอบ พร้อมกล้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดใจให้ทหารชั้นผู้น้อยได้เข้าหาป้องกันเหตุซ้ำรอย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 ก.พ.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม 4 แกนนำ นปช. ที่ต้องโทษคดีการเมืองจากกรณีร่วมชุมนุมและขัดขวางการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2552 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษพัทยา จ.ชลบุรี ประกอบด้วย นายวรชัย เหมะ นายสำเริง ประจำเรือ นายสิงห์ทอง บัวชุม นายศักดา นพสิทธิ์ และนายพงษ์พิเชฐ สุขจินดาทอง

ขณะที่ นายพายัพ ปั้นเกตุ ถูกย้ายไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

นายจตุพร กล่าวว่า การเดินทางมาเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในวันนี้เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจหมู่มิตรที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ และมีความหวังว่าอีกไม่นานจะได้รับอิสรภาพ และจากการได้พบปะพูดคุย พบว่า ทั้งหมดมีสุขภาพดี ยกเว้น นายพงษ์พิเชฐ ที่มีอาการเจ็บป่วยมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรือนจำพิเศษพัทยา ประสานไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่เพื่อเตรียมส่งตัวไปรักษา

โดยคาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้ย้ายไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวยังรายงานบรรยากาศที่เรือนจำพิเศษพัทยาในวันนี้ว่า ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งมาเฝ้าขอถ่ายรูปพร้อมให้กำลังใจประธาน นปช. ในการต่อสู้ ซึ่งประธาน นปช.ได้กล่าวขอบคุณพร้อมทั้งส่งยิ้มและโบกมือให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่มารอรับด้วย

นอกจากนั้น นายจตุพร ยังกล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงประชาชนที่ จ.นครราชสีมา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากถึง 58 รายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายกับสังคมไทยได้อย่างชัดเจนว่าคนไทยอยู่ในจุดที่มีความอดทนขั้นต่ำสุด และไม่พร้อมที่จะอดทนต่อในเรื่องใดๆ โดยเฉพาะความทุกข์ร้อนทางเศรษฐกิจที่แสนสาหัส และเชื่อว่าไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่คนคนหนึ่งลุกขึ้นมาฆ่าคนได้มากขนาดนี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมีผู้ที่เกี่ยวข้องเพียง 3 คนเท่านั้น

“สำหรับความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยไม่มีวัฒนธรรมในเชิงความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาเหมือนนานาประเทศ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำมากกว่าความรับผิดชอบ คือ การป้องกันและป้องปรามเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งล่าสุด จากการที่ได้ฟังผู้บัญชาการทหารบก แถลงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเข้าใจว่ารากเหง้าของปัญหาทั้งหมดมาจากความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชากับผู้บังคับบัญชา”

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมทหาร ผู้บัญชาการทหารบก ต้องกล้าที่จะตรวจสอบและต้องยอมเปิดใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่ได้รับความยุติธรรมหรือหาความเป็นธรรมในหน่วยงานไม่ได้ สามารถเข้าพบเพื่อพูดคุยได้ตลอดเวลา มากกว่าการมานั่งร่ำไห้ระหว่างการแถลงข่าว










กำลังโหลดความคิดเห็น