ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ผู้บริหารสื่อจอมเชลียร์กุนซือ“บิ๊กบราเธอร์”สั่งปฎิบัติการข่าว ไล่บดขยี้ “พล.ต.อ.จักรทิพย์”งานนี้ ตี“บิ๊กแป๊ะ”=ตี “บิ๊กตู่”รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ?
ปฏิบัติการล้มเก้าอี้“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ดูเหมือนจะจบลงไปแล้ว ชัดเจนว่า“บิ๊กแป๊ะ”ได้ไปต่อจนกว่าจะเกษียณช่วงเดือนต.ค.นี้ ด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก“ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร.
ขณะที่ฝ่ายตรงข้าม คนหนึ่ง“โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกเตือนด้วยคำสั่งห้ามไม่ให้กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ขออาศัยร่มกาสาวพัสตร์หลบลี้หนีหน้าลาไปบวชที่อินเดีย และอีกคน "พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา" เพื่อนรักต่างวัยใจตรงกันของ“โจ๊ก”...กระเด็นพ้นสตช.ไปอย่างบอบช้ำหนัก ชนิดที่เรียกว่า“เละกว่าโจ๊ก”
ต้องบอกว่า กระสุน 8 นัด ในแผน“วิสามัญรถ”และการออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ ระหว่าง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และพล.ต.อ.วิระชัย เป็นตัวจุดเริ่ม และจุดจบของทั้งคู่ในเกม“สงครามตัวแทน”คราครั้งนี้
แต่ความพยายามจะต้อน “บิ๊กแป๊ะ”เข้ามุมอับ ด้วยการขุดคุ้ยข้อร้องเรียน โครงการต่างๆของสตช. ในการกำกับดูแลของ“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ยังมีกระบวนการ“ปฎิบัติการข่าว”บดขยี้ไล่บี้กันต่อผ่านหนังสือพิมพ์หัวสี ในสังกัด“สื่อค่ายใหญ่”แห่งหนึ่ง รับหน้าที่จัดสรรพื้นที่ข่าวหน้า 1 พาดหัวตัวไม้ ตีข่าวให้ความสำคัญเป็นข่าวใหญ่ติดต่อกันหลายวัน รวมถึงภาพการปลงผมบวช และความเคลื่อนไหวของ“พระโจ๊ก”อย่างชนิดไม่แคร์ข่าวไวรัสอู่ฮั่น...
เรียกว่า ผิดปกติวิสัยของสื่ออาชีพ ที่จะเลือกนำเสนอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อชาวโลก ถือเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่ผู้คนสนใจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ว่ากันว่า เพื่อนพ้องน้องพี่ในกองบก. ของสื่อฉบับนี้ ต่างอึดอัดขัดข้องใจที่ต้องปฏิบัติตาม“ใบสั่ง”ที่“ผู้บริหาร”สั่งการมาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน แทนที่จะเป็นสื่อที่มี“ความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์”อย่างที่ตั้งใจรับใช้สังคม กลายเป็นเอาสื่อไปรับใช้ใครบางคน เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องอย่างไม่สร้างสรรค์
ที่เป็นอย่างนี้ ก็ว่ากันไปอีกว่า“ผู้บริหารสื่อ”คนนี้ ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของ“บิ๊กบราเธอร์”ผู้มากบารมีในแวดวงอำนาจรัฐ ด้วยได้ชื่อว่าอยู่ในวงการสื่อมานาน บิ๊กบราเธอร์ จึงเรียกใช้งานด้านการข่าวอยู่บ่อยๆ เขามีหน้าที่ต้องวิเคราะห์ข่าว ประเมินสถานการณ์ข่าว และกำหนดวาระของข่าวก่อนจะลงมือ “ปฏิบัติการข่าว”
ผลงานที่ผ่านๆ เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่กิตติศัพท์ด้าน"ความเชลียร์" ฟังว่าไม่ด้อยกว่าใครในบรรดาคนใกล้ตัวของทีมบิ๊กบราเธอร์ ระดับการสร้างภาพ ก็ไม่ด้อยกว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ และ พล.ต.อ.วิระชัย ในทีม“บิ๊กบราเธอร์”ด้วยกัน
เมื่อ“บิ๊กบราเธอร์”ตัดสินใจเปิดวอร์ เพื่อทวงอำนาจการคุมตำรวจกลับมา แต่ไม่ลงมาเล่นเอง พยายามเขี่ย“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ พ้นทาง... แต่“ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ แท็กทีมหนุนหลังไม่บ้าจี้ไปตามเกมที่ “สงครามตัวแทน”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.วิระชัย ท้าทาย วางหมาก และ กลายเป็นฝ่ายพ่าย “เกมพลิก”ไปเรียบร้อย และแล้วก็มาถึงคิวของงาน“ไอโอ” ที่ “ผู้บริหารสื่อ”คนนี้จะอาสาเชลียร์จัดให้ เอาหน้า กู้หน้าคืน หรือ ถูกใช้จาก บิ๊กบราเธอร์ ก็ว่ากันไป...
นั่นคือ ที่มาของข่าวบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ“บิ๊กแป๊ะ” โปรฯ“พระโจ๊ก”ด้วยประการฉะนี้...
ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า เมื่อไหร่ที่อีกฝ่าย จะหมดความอดทน ตอบโต้กลับมา เมื่อนั้นจะเป็นอย่างไร ?
นายทุนสื่อค่ายใหญ่ค่ายนี้ อาจจะผยองลำพองใจที่ส่ง“ผู้บริหารสื่อ”แมวเก้าชีวิตไปรับใช้ใกล้ชิด คลุกวงในอำนาจรัฐกับทีม“บิ๊กบราเธอร์”ส่ง “หลังบ้านตัวเอง”ไปลงทุนลงแรง ทำงานการเมืองฝากอนาคตไว้กับทีมลุงตู่อยู่แล้ว ทุกอย่างจะอยู่ในความคิดคำนวณตลอดไปนั้นอาจจะไม่แน่เสมอไป
เมื่อเล่นเกมเชลียร์บิ๊กบราเธอร์ ไม่ดูทิศทางลม เลือกข้างผิดๆ ทั้งๆที่ก็เห็นตัวอย่างจาก“โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”และ พล.ต.อ.วิระชัย อยู่แล้วก็แสดงว่า...ได้เลือกแล้ว
รู้กันว่า"พล.ต.อ.จักรทิพย์" นั้นสำคัญต่อ คสช.เรื่อยมา จนมาถึงรัฐบาลลุงตู่ ผลงานล่าสุดจับโจรชิงทองที่ลพบุรี ยิ่งการันตีผลงานคุณภาพที่คู่ควรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานก.ตร. ไว้วางใจ และยิ่งเป็นเพื่อนรัก ตท. 20 ของ “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ความสัมพันธ์แห่งวงอำนาจยิ่งแน่นปึ้ก ตรงกันข้าม "บิ๊กบราเธอร์" อำนาจบารมีลดน้อยลงไปเกือบๆ จะหายไปเมื่อไม่ได้คุมตร. หรือ ทหาร เมื่อ"ลุงตู่" ถ่างขา นั่งรมว.กลาโหมเอง
เมื่อมี ลุงตู่ = มีบิ๊กแป๊ะ
ตี “บิ๊กแป๊ะ”= ตี“บิ๊กตู่”แล้วอนาคตของ “หลังบ้านนายทุน” สื่อค่ายนี้จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ล่วงหน้าได้เลย และเผลอๆ “ดีลลับๆ แผลลึกๆ”ที่นายทุนสื่อค่ายนี้เคยขอไว้กับผู้ใหญ่ อาจจะถูกยกเลิก และถึงเวลาที่“คดี”จะเดินหน้า !
ถึงตอนนั้นก็ดูไม่จืดล่ะงานนี้ .
**เพื่อไทย ร้าวแล้วร้าวอีก เมื่อ"เจ๊หน่อย" หัก "สมพงษ์" เตรียมใช้มติคณะกรรมการพรรค ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมกำแพงเพชร
หลังจากกลุ่มก๊วนในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน งัดกันอยู่นานสองนานในเรื่องรายชื่อรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปราย ไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะในรายของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่แห่ง "3ป." ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย "กุนซือนอกสังเวียน" ยืนยันว่าจะเว้นไว้ แต่ ส.ส.ในพรรคโดยเฉพาะสาย "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค ยืนยันว่า ต้องอภิปราย เพื่อให้ครบ "3ป."
ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว โดยจะไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (31ม.ค.) โดยมีรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปราย 5 คน ดังนี้
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม 2. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 3. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 4. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ และ 5. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
เป็นอันว่าสาย "เจ๊หน่อย" ที่พยายามฮึดสู้ "เฉลิม" สุดท้ายก็ลุ้นไม่ขึ้น !!
เมื่อเรื่อง "ศึกซักฟอก" ลงตัวแล้ว ก็มางัดกันต่อในเรื่องเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 กำแพงเพชร แทน "พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์" ที่ถูกศาลสั่งจำคุก ในคดีบุกล้มการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่พัทยา ซึ่ง กกต.กำหนดวันเลือกตั้งมาแล้ว คือวันที่ 23 ก.พ. รับสมัครวันที่ 29 ม.ค.-2ก.พ.
คราวนี้เป็นการงัดกันระหว่าง "สายเจ๊หน่อย" กับ "เฮียพงษ์" สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มี "ภูมิธรรม เวชยชัย" เป็นที่ปรึกษา...
"สายหัวหน้าพรรค" เห็นว่าไม่ควรส่งผู้สมัคร เพราะมีเวลาเตรียมตัวน้อย โอกาสชนะยาก ถึงชนะมาก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สู้เอาเวลาไปทุ่มเทเตรียมความพร้อมทวงพื้นที่คืนในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ ที่ "กรุงศรีวิไล สุทินเผือก" จากพรรคพลังประชารัฐ โดนใบเหลืองจะดีกว่า เชื่อว่ามีโอกาสชนะมากกว่า...
แต่ "สายเจ๊หน่อย" แย้งว่ายังมีประชาชนให้ความสนับสนุนพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมี.ค.62 แม้"กลุ่มชากังราว" ที่นำโดย"วราเทพ รัตนากร" จะยกทีมทั้งจังหวัดไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ แต่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ก็ยังได้ที่ 2 เก็บคะแนนมาได้กว่า1.8 หมื่นคะแนน... ครั้งนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องส่ง วัดกันไปเลยว่าคนกำแพงเพชร จะเลือกเพื่อไทย หรือพลังประชารัฐ ... แถมยังบอกว่า ที่สายหัวหน้าพรรคจะไม่ส่ง เป็นเพราะ "วราเทพ" สมาชิกกลุ่ม 16 ในอดีต ที่มีความสนิทสนมกับ "เฮียพงษ์" มาวิ่งล็อบบี้
ดังนั้น หากยังตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องให้ "คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง" ลงมติ เพื่อหาข้อสรุป ซึ่ง "สายเจ๊หน่อย" มั่นใจว่า มีมือมากกว่า เพราะเป็นทีมที่ดูแลการเลือกตั้งมาโดยตลอด...ถ้าถึงที่สุดแล้วต้องส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ก็จะเป็นการกู้หน้า กู้ศักดิ์ศรี บารมี ให้ "เจ๊หน่อย"กลับคืนมาได้ในระดับหนึ่ง
แต่ในสายตาคนนอกเมื่อมองเกมนี้แล้วก็คงจะเห็นเหมือนๆกันว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร สู้กับ พลังประชารัฐ ที่เป็นแกนนำรัฐบาล และส่ง”ลูกชายไวพจน์” ลงรักษาเก้าอี้ ... ผลก็รู้อยู่แล้วว่าจะลงเอยอย่างไร... โดยเฉพาะในช่วงหาเสียงก็จะมีแต่ "ทีมเจ๊หน่อย" ที่ลงไปช่วย กลุ่มอื่นๆในพรรค ก็คงได้แต่ดูอยู่ห่างๆ ...เมื่อเป็นเช่นนี้โอกาส "แพ้หลุดลุ่ย" มีสูง และแน่นอนว่าเป็นการแพ้เกมการเมืองในภาพรวมด้วย!!