เชียงใหม่ - ภาคเอกชนเชียงใหม่ตั้งวงถกหนีวิกฤตเศรษฐกิจ-ผลกระทบไวรัสอู่ฮั่น ทำเงินหายจากระบบ 1,500 ล้าน/เดือน เสนอรัฐลดดอกเบี้ย-อัดเงินกู้-งดจ่ายประกันสังคม-ลดค่าน้ำค่าไฟยันภาษีอาคาร/ที่ดินและน้ำมัน ก่อนกลายเป็น NPL ปลุกทุกภาคส่วนขับเคลื่อน “เที่ยวเชียงใหม่ปลอดภัย”
หลังเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แพร่ระบาด และกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั่วโลก ภาคเอกชน-ผู้ประกอบการอิสระในเชียงใหม่ได้รวมตัวหารือกันถึง "วิกฤตต่างๆ ที่ส่งผลต่อวิกฤตทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ และการเสนอทางออกถึงมาตรการบรรเทาแก้ปัญหา" โดยมีตัวแทนจากหอการค้าจังหวัดฯ สมาคม/ชมรมมัคคุเทศก์ฯ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ผู้ประกอบการโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ผู้ค้ารายย่อย กลุ่มรถเช่า ผู้ค้าตลาดไนท์บาซาร์ ถนนคนเดิน ฯลฯ ร่วมเวที เมื่อเร็วๆ นี้กว่า 20 ราย
นายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานมูลนิธิกองทุนเพื่ออนุรักษ์ดอยอินทนนท์ และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แกนนำในเวทีการประชุมดังกล่าว เปิดเผยว่า เชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน นักท่องเที่ยวยกเลิกและชะลอการท่องเที่ยวตั้งแต่ไฮซีซันต้นปีนี้ รวมถึงการระบาดของไวรัสอู่ฮั่น นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง-การเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินปี 63 ที่ล่าช้า ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศลดลง ยังต้องประสบปัญหาหมอกควัน ไฟป่าตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นครั้งแรกในรอบ 724 ของเมืองเชียงใหม่
“เฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศจีนส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป 10,000 คนต่อวัน ทำให้เม็ดเงินหายจากระบบเศรษฐกิจเชียงใหม่กว่า 1,500 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว ยังมีผลต่อการเดินทางทุกประเทศชะงักงัน กระทบต่อเนื่องไปถึงทุกประเภทธุรกิจด้วย”
จากการหารือร่วมกันของผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจังหวัดเชียงใหม่ถึงสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะนำเสนอผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือต่อไป
โดยเรียกร้องให้รัฐออกมาตรการทางการเงิน ปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการ งดการจ่ายเงินต้น และลดดอกเบี้ยเหลือในอัตราที่ต่ำสุดเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการก่อนกลายเป็น NPL ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2563
ให้รัฐจัดหาเงินกู้พิเศษสำหรับธุรกิจขนาดกลาง และเล็ก ตลอดจนผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ เช่น มัคคุเทศก์ หมอนวด และคนว่างงาน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด, การงดจ่ายเงินประกันสังคมทั้งผู้ประกอบการ และลูกจ้าง เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดในระบบเศรษฐกิจ, ลดหรืองดจ่ายภาษีอาคาร และที่ดิน และอื่นๆ พร้อมเรียกร้องให้องค์กรรัฐวิสาหกิจลดค่าไฟฟ้า ค่าประปา ให้ต่ำที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกำไร ให้กับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านนวด ร้านสปา ฯลฯ, ลดภาษีน้ำมัน เพิ่มกระแสการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจและเป็นการลดต้นทุนแบบถ้วนหน้า รวมถึงการยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระค่างวดบ้าน และรถยนต์ด้วย
นายพรชัยกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันก็เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนเชียงใหม่เมืองท่องเที่ยวปลอดภัย Chiang Mai Safety City Destination เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ยังเดินทางท่องเที่ยวหรือประชุมในช่วงนี้ รณรงค์ในสถานประกอบการตั้งจุดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคตามจุดต่างๆ เช่น ทางเข้าโรงแรม หน้าลิฟต์ หน้าห้องพัก ทางขึ้นลงบันได ป้ายรอรถประจำทาง ตลาดสด สถานีขนส่ง สนามบิน และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น รณรงค์การใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค ตรวจสอบวัดไข้เบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนนำตัวส่งไปรักษา
พร้อมกับระดมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และภาคประชาชน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่เชียงใหม่ ลดภาพลบ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสังคม เช่น การนำแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อไปวางไว้ตามจุดต่างๆ การแจกหน้ากากอนามัย การแจกเจลฆ่าเชื้อ และปลูกฝังจิตสำนึกในการรักษาความสะอาด การทำกิจกรรมให้กำลังใจ และการประชาสัมพันธ์โครงการ เชียงใหม่เมืองท่องเที่ยวปลอดภัย โดยการติดป้ายไวนิลตามสถานประกอบการ หรือสติกเกอร์ตามหน้าร้าน หน้าที่อยู่อาศัย รถยนต์
