ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า สำนักงานเขต 2 ศรีราชา เตรียมลงพื้นที่บ้านค้างคาว หาแนวทางกำจัดแบบถาวรในวันศุกร์นี้ ขณะที่เจ้าของบ้านเผยเคยมีแนวคิดเปิดร้านกาแฟแลค้างคาว แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจึงรู้สึกกลัว และเตรียมเปลี่ยนหลังคาเป็นแบบโปร่ง
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี ว่า มีค้างคาวเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก จนเกรงว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศจีนขณะนี้ และเมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านไม้เก่าโบราณที่สร้างตั้งแต่ปี 2497
และปัจจุบันไม่มีใครอาศัยอยู่ โดยใช้เป็นเพียงที่เก็บของจึงทำให้มีค้างคาวนับพันตัวพากันห้อยหัวอยู่บริเวณใต้หลังคาและบริเวณโดยรอบบ้าน ขณะที่บางตัวยังบินเข้าไปเกาะอยู่ที่โรงจอดรถบ้านข้างเคียงนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 657/6 ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี อีกครั้ง หลังได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชลบุรี และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี แแต่สุดท้ายก็พบกับความว่างเปล่า และไม่มีหน่วยงานใดใน จ.ชลบุรี ลงพื้้นที่ให้ความช่วยเหลือ
และจากการสอบถาม น.ส.อริสรา ธนะวัฑฒโก อายุ 49 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านทราบว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชลบุรี และทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาดูฝูงค้างคาวภายในบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้แต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากค้างคาวเป็นสัตว์สงวน แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองก็รู้สึกดีขึ้นที่หน่วยงานในพื้นที่ให้ความสำคัญเข้ามาดูแลช่วยเหลือ
พร้อมรับปากว่าจะกลับจะเข้ามาอีกครั้งพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่เขต 2 ศรีราชา ในวันศุกร์ที่ 31ม.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางการกำจัดอย่างถาวร
ขณะที่ นายภาสกร เหมหัตถพร เจ้าของบ้านเผยว่า เมื่อหลายปีก่อนได้เคยเห็นค้างคาวเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านแต่ก็มีไม่มากนัก ซึ่งในครั้งแรกเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกและยังมีความคิดว่าจะเปิดร้านกาแฟ เพื่อเชิญชวนให้คนเข้ามาดูค้างคาว พร้อมติดป้ายจิบกาแฟ แลค้างคาว แต่หลังจากมีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา จึงรู้สึกกลัว
และที่ผ่านมา ก็ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญให้เปลี่ยนหลังคาบ้านเป็นแบบโปร่ง และติดสปอตไลต์ ซึ่งจะทำให้ค้างคาวไม่เข้ามาอาศัย จึงคิดว่าจะลองทำดู