ราชบุรี - ประชาชนชาวราชบุรี เผยไม่กลัวไวรัสโคโรนา แม้จะอยู่ใกล้ชิดกับค้างคาวนับล้านตัว ช่วงพลบค่ำทุกวันจะมีค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อออกไปหากิน โดยมีนักท่องเที่ยวไปดักรอชมและถ่ายรูปความสวยงามของค้างคาวที่บินออกมาเป็นสายยาว
จากกรณีที่มีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดขึ้นในมณฑลอู่ฮั่น ของประเทศจีน และกำลังระบาดไปทั่วโลก และเชื่อว่าสาเหตุของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสน่าจะมาจากค้างคาว ซึ่ง จ.ราชบุรีนั้นถือเป็นแหล่งที่มีค้างคาวมากที่สุด โดยเฉพาะที่วัดเขาช่องพราน ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นแหล่งที่มีค้างคาวมากกว่า 100 ล้านตัว อาศัยอยู่ในถ้ำบนยอดเขา
โดยในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ของทุกวัน จะมีค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อออกไปหากิน โดยจะมีนักท่องเที่ยวไปดักรอชมและถ่ายรูปความสวยงามของค้างคาวที่บินออกมาเป็นสายยาว นอกจากนี้ ภายในถ้ำค้างคาวจะมีชาวบ้านเข้าไปเก็บมูลค้างคาวออกมาขายเพื่อเป็นปุ๋ยด้วย
นายสิงหา สิทธิกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านเขาช่องพราน ต.เตาปูน อ.โพธาราม กล่าวว่า ตนนั้นอยู่ใกล้ชิด กิน และสัมผัสกับค้างคาวมากกว่า 40 ปีแล้ว ไม่เห็นว่าจะมีใครเป็นอะไร ที่ผ่านมา นิยมกินค้างคาวกันมาก แต่ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยมกิน และตอนนี้ค้างคาวก็เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งจะมีโทษทั้งจำและปรับ ทำให้ความนิยมในการกินค้างคาวลดลงไป
ในสมัยก่อนการกินค้างคาวจะกินเลือดสดๆ บางคนก็นำมาผัด ทอด หรือพล่า ไม่เห็นว่าจะมีใครเป็นอะไร ถึงแม้ตอนนี้จะมีข่าวเรื่องของไวรัสโคโรนากำลังระบาดและเชื่อว่าน่าจะเกิดมาจากการกินค้างคาวนั้น ชาวบ้านในบริเวณนี้ไม่มีใครกลัวเลย เพราะทุกคนที่อยู่รอบๆ และคนที่ขึ้นไปเก็บมูลค้างคาวนั้นมีความเคยชิน ที่ผ่านมา มีหน่วยงานเข้ามานำชาวบ้านที่อยู่ในรัศมีประมาณ 1 กม. ไปตรวจเลือด หรือไปตรวจเนื้อเยื่อในโพรงจมูกว่ามีเชื้อโรคอะไรหรือไม่ ก็ไม่พบว่ามีชาวบ้านคนใดติดเชื้อ
