xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเดินหน้าร้อง กมธ.ที่ดินฯ ค้านโครงการถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - กมธ.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบช่วยเหลือชาวประมงบางละมุง-แหลมฉบัง หลังได้รับการร้องเรียนหวั่นจะได้รับผลกระทบโครงการถมทะเล 3,000 ไร่ ของ กนอ. พร้อมรับเรื่องเตรียมประสานหน่วยงานระดับสูงต่อไป

นายรังสรรค์ สมบูรณ์ ชาวประมงชายฝั่งชลบุรี เผยว่า จากกรณีที่ทางรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม มีโครงการถมทะเล 3,000 ไร่ บริเวณอ่าวอุดม ซึ่งเป็นการกระทำการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนเอกชน ในขณะที่พื้นที่บริเวณอ่าวอุดม เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เป็นแนวปะการังที่สมบูรณ์ หากมีการถมทะเล 3,000 ไร่ สนองทุนต่างชาติ ทำปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ จะกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งวิถีประมงพื้นบ้านท้องถิ่น อีกทั้ง ความล่มสลายของทรัพยากรธรรมชาติจากการถมทะเลในเมืองไทย

พวกเราชาวประมงชายฝั่ง จึงได้รวมตัวทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ถึงความเดือดร้อนและผลกระทบดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น และเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ตามที่เราร้องเรียนไป โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ จุดแรกคือ บริเวณ ชุมชนบ้านบางละมุง และชายทะเลบางละมุง ส่วนจุดที่ 2 บริเวณชายทะเลแหลมฉบัง

นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวกลุ่มชาวบ้านคัดค้านมาโดยตลอดเพราะหวั่นจะได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ เพราะที่ผ่านมา ปัญหาการถมทะเล จากโครงการก่อสร้างแหลมฉบัง ท่าเรือเฟส 1 และเฟส 2 ที่ก่อสร้างและดำเนินการมาแล้วหลายปี แต่ยังมีปัญหาส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและผู้ประกอบการเรือประมงมาโดยตลอด นอกจากนั้น ยังมีปัญหาการฟ้องร้องเรื่องที่ดินบริเวณดังกล่าวระหว่างชาวบ้านกับกรมธนารักษ์อีกด้วย

ล่าสุด มีโครงการถมทะเลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ซึ่งที่มีการเจรจาพูดคุยกันมาเป็นระยะเวลา 1 ปีเศษแล้ว ซึ่งสามารถสรุปว่าจะมีการจ่ายค่าชดเชยและเยียวยาให้แก่ชาวประมงและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างแค่การดำเนินการ ยังไม่สามารถสรุปการจ่ายค่าชดเชยและเยียวยาได้ จึงขอฝากคณะ กมธ.ที่ดินฯ ติดตามในเรื่องนี้ด้วย

ด้าน นายวรา ถนอมรอด ประธานชมรมตกปลา อาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมฉบัง กล่าวว่า ชาวบ้านและชาวประมงในพื้นที่คงจะได้รับผลกระทบจากโครงการถมทะเลอย่างแน่นอน โดยในความเป็นจริงชาวบ้านไม่ต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องขอให้ทางคณะ กมธ. เข้ามาช่วยเหลือ

ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่บางละมุง และแหลมฉบัง เกี่ยวกับโครงการถมทะเลเพื่อรองรับการลงทุนส่วนขยายโครงการปิโตรเคมีของกลุ่มเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ที่จะขอใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวประมาณ 1,000 กว่าไร่ โดยลงทุนทั้งสิ้นกว่า 3 แสนล้านบาท

สำหรับการลงทุนโครงการดังกล่าว เบื้องต้น ควรจะต้องให้ชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นที่จะลงทุนก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เหมือนโครงการต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต โดยจะไม่ทำให้สิทธิชุมชน สิทธิในการทำมาหากิน และวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านไม่เปลี่ยนไปมากนัก และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการเยียวยาและดูแลให้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

หลังลงมาดูพื้นที่จริง และได้รับข้อมูลจากชาวบ้านแล้ว ทางคณะ กมธ.ที่ดินฯ จะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปพูดคุยและทักท้วงต่อผู้มีอำนาจ และจะคอยติดตามกรณีดังกล่าวให้แก่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง












กำลังโหลดความคิดเห็น