ปลูกไม้ดอกกินน้ำน้อย อีกทางรอดเกษตรกรยามแล้งคุกคามหนัก

อุบลราชธานี - เกษตรกรเลือกปลูกดอกไม้กินน้ำน้อย ลดการขาดแคลนน้ำใช้เลี้ยงผลผลิตหน้าแล้งนี้ ทำรายได้วันละกว่า 1,000 บาท

ภัยแล้งคุกคามไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย เมื่อทำนาปรังไม่ได้เพราะขาดแหล่งน้ำ เกษตรกรต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดหันไปเพาะปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อยแทน บ้างก็ปลูกพืชตะกูลถั่ว บ้างก็ปลูกไม้ดอกที่ใช้น้ำไม่มากแทน

นายศิริชัย ประยูรหาญ อายุ 30 ปี ชาวบ้านตาติด ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเกษตรกรที่ได้ปรับตัวรับมือกับภัยแล้ง โดยนายศิริชัยบอกว่า หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจะหันมาปลูกต้นเบญจมาศ และต้นดอกดาวเรืองแทนการทำนาปรังเพื่อลดการใช้น้ำ เพราะพื้นที่ไม่อยู่ในเขตชลประทาน ต้องใช้น้ำจากบ่อบาดาลมารดแปลงไม้ดอก




ซึ่งการรดน้ำต้นเบญจมาศ และต้นดาวเรืองนั้นทำเพียงวันละ 1 ครั้ง เพราะหากให้น้ำมากไปจะทำให้ช่อดอกได้รับความเสียหายจากโรคเชื้อราที่มากับสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง

รวมทั้งเลือกรดน้ำให้ตรงกับแปลงปลูกเพื่อไม่ให้เกิดวัชพืชตามทางเดินมาแย่งสารอาหารของต้นไม้ที่ปลูก ซึ่งทุกวันนี้สามารถเก็บดอกส่งขายในตลาดได้ทุกวันมีรายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท




สำหรับสถานการณ์น้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5 เมตรเศษ และมีอัตราการไหลของน้ำเพียง 21 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจากลำน้ำที่รองรับได้ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที