xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาสานตะกร้าไม้ไผ่ขายหน้าแล้ง ทำเงินดีกว่าทำนาปรังหลายเท่าตัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี-ชาวนาในอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ปรับตัวเลิกทำนาปรัง เพราะเจอภัยแล้งคุกคามอย่างหนัก หันมาสานตะกร้าไม้ไผ่ขาย ใบละ 200-700 บาทตามแต่ความยากง่ายของลวดลายและขนาด มีรายได้ดีกว่าทำนาปลูกข้าวเสียอีก

ชาวนาชาวไร่ในหมู่บ้านบก ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเดิมต้องทำนาปรังในช่วงหน้าแล้ง แต่ปีนี้ได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลให้งดการทำนาปรังโดยเด็ดขาด เพราะไม่มีน้ำให้ทำนาปลูกข้าวหรือทำพืชไร่ จึงพากันหันมาประกอบอาชีพสานตะกร้าไม้ไผ่ขายเลี้ยงชีพ ซึ่งพบว่ามีรายได้ดีกว่าการทำนาปลูกข้าว

น.ส.ประไพ นามอ่อนสา อายุ 44 ปี กลุ่มแม่บ้านบก หมู่ 1 ต.โนนผึ้ง อ.วารินฯชำราบ ซึ่งชักชวนเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันที่ไม่สามารถทำนาปรังในปีนี้ ให้มารวมตัวทำจักสานตะกร้าไม้ไผ่ออกจำหน่ายแทนการทำนาปลูกข้าว เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว


โดยเจ้าตัวเล่าว่า เป็นคนชอบอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ทำจากไม้ไผ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากทำนา จึงมาลองสานตะกร้าไม้ไผ่ขายแทนการทำนาปรัง และขายผ่านเพจตามคำแนะนำของครู กศน.ที่เข้ามาส่งเสริมอาชีพ ซึ่งก็ทำรายได้ช่วงหน้าแล้งได้เดือนละหลายพันบาท

เมื่อมาถึงปีนี้ เกษตรตำบลโนนผึ้ง ได้ป่าวประกาศแจ้งให้ชาวนางดทำนาปรังอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุนเพราะน้ำไม่มี ก็เลยชวนเพื่อนบ้านที่สนใจมารวมตัว สานตะกร้าขายใบละ 200-700 บาท ตามขนาดและลวดลายของตะกร้าแต่ละใบ


ทำให้หน้าแล้งปีนี้ พวกตนมีรายได้จากการจักสานตะกร้าไม้ไผ่ขายเดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีกว่าการทำนาปรังเสียอีก เพราะต้นทุนส่วนใหญ่เป็นแรงงานใช้จักสาน ตรงข้ามกับการปลูกข้าวที่ต้องลงทุนทุกขั้นตอน ทั้งค่าปุ๋ยเคมี ค่าจ้างรถไถมาไถพรวนหว่านดำและเก็บเกี่ยว


สำหรับผู้สนใจงานจักสานตะกร้า สามารถสั่งซื้อผ่านเพจบ้านไม้ไผ่จักสานของกลุ่มแม่บ้าน ต.โนนผึ้ง ได้ตลอดในช่วงหน้าแล้งนี้ ส่วนหน้าฝนก็จะหยุดไปเพาะปลูกทำนาปลูกข้าวตามเดิม แต่หากลูกค้ามีความต้องการในช่วงเพาะปลูก ก็สามารถสั่งให้ทำได้เป็นครั้งๆไป


กำลังโหลดความคิดเห็น