ร้อยเอ็ด - ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ทลาย 2 ผับดังกลางเมืองร้อยเอ็ด พบเด็กมั่วสุมกว่า 216 คน นักเที่ยวไม่พกบัตรประชาชน 58 คน เตรียมชงผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด สั่งปิด 2 ผับดังเป็นเวลา 5 ปี
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. กรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.ประสิทธิ์ ฉ่ำมณี รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พร้อมกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 100 นาย บุกเข้าจับกุมสถานบันเทิงชื่อดังกลางเมืองร้อยเอ็ด
ประกอบด้วย ร้านบูซเซอร์ (BOOZER) และร้านโดรนคลับ (DRONE CLUB) ตั้งอยู่ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีการปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการภายในร้านจำนวนมาก และยังเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน
ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่า สถานบริการชื่อบูซเซอร์ (BOOZER) และสถานบริการโดรนคลับ (DRONE CLUB) ตั้งอยู่ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ปล่อยเด็กเยาวชนเข้าใช้บริการ เปิดเกินเวลา และปล่อยให้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ ซึ่งขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 จึงประสานกับกรมการปกครองส่วนกลาง มาร่วมตรวจสอบสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ตามข้อร้องเรียนดังกล่าว
กระทั่งเวลา 02.00 น. ชุดจับกุมบุกเข้าไปภายในร้านพบนักเที่ยวกว่า 600 คน กำลังเต้นอย่างเมามัน พอนักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ภายในผับเกิดโกลาหลเล็กน้อย เด็กหลายคนพยายามจะหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ส่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน ทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ จึงเปิดไฟแสงสว่างให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากการตรวจสอบภายในร้านบูซเซอร์ พบนักเที่ยวกว่า 400 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 138 คน โดยมีเด็กอายุต่ำสุดเพียง 13 ปี จึงแจ้งผู้ปกครองมารับตัว นอกจากนี้ ยังพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 39 คน ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับ ขณะเดียวกัน ยังพบยาเสพติดตกอยู่ ประกอบด้วยไอซ์ 3 ซอง มีนายรุ่งโรจน์ วรนาม อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน
มี น.ส.ชัชวรรณณ์ ลีโรจนวุฒิกุล เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จึงจับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ ไม่ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ ไม่จัดทำประวัติพนักงานก่อนเริ่มเข้าทำงาน และยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
ส่วนร้านโดรนคลับ พบนักเที่ยวกว่า 200 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ 78 คน จึงทำบันทึกและแจ้งผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน นอกจากนี้ ตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 19 คน ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย โดยร้านโดรนคลับ มี น.ส.อรทัย ภักดีสมัย อายุ 31 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน
มี น.ส.รักษยา แสงฤทธิ์ เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จึงได้จับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ ยินยอมหรือปล่อยให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานบริการ ไม่ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่า สถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งที่ถูกจับกุมวันนี้ มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการครบทั้ง 2 แห่ง ซึ่งข้อตกลงที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีโทษทางอาญา และโทษทางปกครองสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา 5 ปี
กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปรามสถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผู้ประการการสถานบันเทิงควรรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งสถานที่เหล่านี้ไม่สมควรให้เยาวชนเข้ามาใช้บริการหรือมั่วสุม