ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่จัดกิจกรรมพิเศษสร้างความประทับใจต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเลือกเดินทางเที่ยวเชียงใหม่ช่วงตรุษจีน คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจีนใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ย้ำมาตรการเข้มสกัดเชื้อไวรัสพันธุ์ใหม่
วันนี้(24 ม.ค.63) นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนส่วนราชการและสายการบิน ได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปี 2563 โดยร่วมกันให้การต้อนรับผู้โดยสารของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD481 ซึ่งเดินทางมาจากฉางชา และสายการบินไชน่าอีสเทอร์น เที่ยวบินที่ MU2569 ซึ่งเดินทางมาจากปักกิ่ง มีการแจกส้มมงคลและของที่ระลึก เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางในช่วงเวลาพิเศษ
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ระหว่างวันที่ 20 ม.ค.-9 ก.พ.63 ไม่มีเที่ยวบินพิเศษแบบเช่าเหมาลำ แต่มีสายการบินขอทำการบินเพิ่ม 3 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไชน่าอีสเทิร์น ในเส้นทาง หนานหนิง-เชียงใหม่-หนานหนิง จำนวน 18 เที่ยวบิน และเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่-เซี่ยงไฮ้ จำนวน 42 เที่ยวบิน สายการบินไชน่าเซาท์เทิร์น เส้นทาง กวางโจว-เชียงใหม่-กวางโจว จำนวน 46 เที่ยวบิน และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทาง เฉินตู-เชียงใหม่-เฉินตู จำนวน 18 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 124 เที่ยวบิน
ทั้งนี้เมื่อรวมกับเที่ยวบินที่ทำการบินปกติแล้ว จำนวนเที่ยวบินในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนของปี 2562 ประมาณร้อยละ 9.4 แต่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณร้อยละ 1.8 โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผู้โดยสารชาวจีนเฉลี่ยวันละประมาณ 6,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณวันละ 1,000 คน และจากข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานเชียงใหม่ พบว่าในปี 2562 มีผู้โดยสารชาวจีนผ่านเข้าออกช่องทางท่าอากาศยานเชียงใหม่กว่า 1.78 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีผู้โดยสารชาวจีนผ่านเข้าออกช่องทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ 1.69 ล้านคน
สำหรับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น ล่าสุดมีการงดเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่นที่บินตรงมายังจังหวัดเชียงใหม่ สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ได้แก่ วันอังคาร,วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ระหว่าง 24 ม.ค.-4 ก.พ.63 ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารจากเที่ยวบินดังกล่าวทั้งขาไปและขากลับลดลงไปประมาณ 800 คน อย่างไรก็ตามไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด
โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในฐานะหนึ่งในช่องทางการเข้าออกระหว่างประเทศ ได้ร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองที่มีการแพร่ระบาด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยอินฟาเรด หรือ เทอร์โมสแกน รวมทั้งแจก Health beware card ซึ่งเป็นคู่มือการปฏิบัติตนและสังเกตอาการเบื้องต้นให้แก่ผู้โดยสาร โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2563 และพบผู้โดยสารที่มีไข้สูงเข้าข่ายการตรวจหาเชื้อเพียง 1 ราย เท่านั้น ซึ่งผลการตรวจก็ออกมาแล้วว่าเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B
ทั้งนี้กรณีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ โรคติดต่อ และการกักกันโรค ถือเป็นหนึ่งในการวางแผนรับเหตุฉุกเฉินของท่าอากาศยาน ที่ต้องทำการฝึกซ้อมเพื่อทดสอบความรวดเร็ว ถูกต้อง และความชำนาญเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงาน การวางแผน การควบคุมและสั่งการ ที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เลือกหัวข้อดังกล่าวในการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเต็มรูปแบบมาแล้วหลายครั้ง จึงมั่นใจได้ว่ามาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่จะช่วยสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้.