ฉะเชิงเทรา - ฆาตกรฆ่ารัดคอรองคณบดีสาว รร.สาธิต มรภ.นครินทร์ฉะเชิงเทรา รับติดพนัน-เสพยาก่อนปีนเข้าบ้านอาจารย์สาว อ้างแค่เข้าไปขโมยของแต่เหยื่อเห็นก่อนจึงต่อยท้อง-อุดปากจนแน่นิ่ง ด้านพ่อ-ญาติและคณะครู ร่วมฟังแถลงข่าวท่ามกลางประชาชนรุมสาปแช่ง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวเสียชีวิตในสภาพนอนเปลือยกายมีน้ำลายฟูมปาก ภายในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 189/43 หมู่บ้านพาขวัญ 2 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวปิดบังร่างกาย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยภายในบ้านไม่พบร่องรอยของการรื้อค้น และไม่มีร่องรอยการต่อสู้พบเพียงรอยช้ำบริเวณลำคอของผู้เสียชีวิต
ทราบชื่อคือ น.ส.เนติมา พัฒนกุล อายุ 39 ปี รองคณบดีโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา อดีตประธานสาขาการสอนภาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสันต์ สิทธิชัย หรือแจ็ค อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีหลังบ้านและรั้วด้านท้ายบ้านติดกับบ้านผู้เสียชีวิต ได้ในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาก่อนนำตัวกลับมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น
วันนี้ ( 24 ม.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช. ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช. ภ.2 และ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายสันต์ สิทธิชัย หรือ แจ็ค อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญกดคออุดปากฆ่า น.ส.เนติมา พัฒนกุล รองคณบดีโรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฏราชนครินทร์ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก
โดยมีของกลางทั้งกระเป๋าผ้าใส่ของ 1 ใบ ,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ,พระเลี่ยมทอง 2 องค์, เงินสด 4 พันบาท และมีดปลอกผลไม้ที่เตรียมใช้ก่อเหตุ
นายสันต์ สารภาพว่าเดิมตนเองมีอาชีพขับรถแท็กซี่ และครูสาวก็เคยเป็นลูกค้าที่เรียกใช้บริการมาแล้ว 1 ครั้ง และตนเองยังเคยนำรถมาจอดที่หน้าบ้านของครูสาวอยู่เป็นประจำ และเมื่อ 8 เดือนก่อนได้ถูกภรรยาซึ่งมีบุตรสาวด้วยกัน 3 คน ขอแยกทางเพราะปัญหาเรื่องติดการพนันตนเองจึงต้องกลับไปอยู่กับเพื่อนในกรุงเทพฯ แต่ยังวนเวียนมาคอยเฝ้าดู ภรรยาและบุตรอยู่เป็นประจำ
กระทั่งเงินขาดมือเพราะไม่ได้ขับรถแท็กซี่ จึงไม่มีเงินผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ จึงได้หวนกลับเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านของอาจารย์สาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน โดยยอมรับสารภาพว่าก่อนลงมือก่อเหตุเมื่อเวลา 22.36 น.วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เสพยาเสพติดและได้ให้ น.ส.ศุภมาศ เพื่อนสาวคนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันและเพิ่งจะขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุโจรกรรมในพื้นที่ ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อมาส่งตนเองที่บริเวณใกล้ประตูรั้วหน้าบ้านของครูสาว
นายสันต์ หรือแจ๊ค ยังเผยอีกว่าตนเองได้เดินเข้าไปเฝ้าเหยื่อในบ้านหลังริมสุดซึ่งเป็นบ้านร้างห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไป 2 หลัง กระทั่งดึกสงัดและไม่มีผู้คนพลุกพล่าน จึงได้ปีนรั้วหน้าบ้านที่ติดกับบ้านเหยื่อเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมก่อนจะเลื่อนบานประตูกระจกหลังบ้านครูสาวที่ลืมล็อคกลอนจากด้านในเพื่อเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน และเมื่อขึ้นไปยังชั้นบนก็พบอาจารย์สาวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จซึ่งได้ร้องส่งเสียงดัง
“ ตอนนั้นได้ใช้หมัดต่อยไปที่ท้องครูจำนวน 4 ครั้ง จนครูสาวจุกจึงได้ผลักตัวให้เข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะใช้มือกดคอและนำผ้าขนหนูอุดปาก จนครูสาวแน่นิ่ง”
นายสันต์ หรือแจ็ค ยังอ้างว่าตนเองได้พยายามช่วยเหลือเหยื่อด้วยการทำ CPR เป่าปากและปั้มหัวใจ แต่ครูสาวไม่ฟื้นจึงได้ใช้ผ้าขนหนูช่วยปิดคลุมร่างไว้ก่อนจะเดินลงมานั่งทำใจอยู่ที่ชั้นล่างและโทรศัพท์ให้เพื่อนสาวคนใหม่ขี่รถจักรยานยนต์มารับ โดยได้นำทรัพย์สินของครูสาว ไปขายในกรุงเทพฯ
หลังผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่มายืนจับกลุ่มรอดู พร้อมตะโกนด่าและสาปแช่งตลอดทาง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันนี้ นายจิราวุธ พัฒนกุล อายุ 68 ปี ผู้ บิดาของครูสาวและญาติ รวมทั้งคณะอาจารย์ ม.ราชภัฏฯ ได้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวและซักถาม นายแจ็ค ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ขณะเพื่อสาวคนใหม่ของ นายแจ๊ค ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ให้การสนับสนุนการกระทำผิดชิงทรัพย์
