xs
xsm
sm
md
lg

สิ้นหวัง! แล้งกระหน่ำคลองแห้งขอดแพเกยตื้นข้ามปี-ข้าวแห้งตายคาทุ่งสุดลูกหูลูกตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - ภัยแล้งกระหน่ำหนัก.. ชาวนาเก้าเลี้ยวสิ้นหวังพากันปล่อยต้นข้าวแห้งตายคาทุ่งสุดลูกหูลูกตา ขณะที่คลองสาขาน้ำยมขอดก้นจนเรือนแพเกยตื้นตั้งดินข้ามปี ทำบวบเสียหายระนาว



วันนี้ (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ พบว่าคลองบางเคียน ต.บางเคียน อ.ชุมแสง คลองสาขาของแม่น้ำยมแห้งขอดไม่มีน้ำตลอดสาย หมู่บ้านเรือนแพหลายสิบหลังคาเรือนต้องปล่อยให้เรือนแพเกยตื้นและลาดเอียงอยู่ในลำคลองจนได้รับความเสียหาย

ชาวแพในพื้นที่บอกว่าปีนี้ประสบกับปัญหาภัยแล้งหนักหนาสาหัสกว่าทุกปี คลองบางเคียนที่เป็นคลองสาขาของแม่น้ำยมที่ไหลมาจากจังหวัดพิจิตรนั้น แห้งขอดมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดแพทุกหลังที่อาศัยอยู่ในคลองมีลักษณะเกยตื้นอยู่ก้นคลองทั้งหมด ลูกบวบไม้ไผ่ใต้แพแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก ต้องซ่อมแซมหลังละกว่า 1 หมื่นบาท


และแม้ว่าก่อนหน้านี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นที่ได้นำรถแบ็กโฮลงขุดร่องน้ำในลำคลองให้ชาวบ้านเพื่อช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นแล้ว แต่น้ำก็ยังแห้งไปจนหมด นอกจากนี้ ลำคลองที่แห้งขอดยังส่งผลกระทบต่อชาวนาในพื้นที่ ไม่มีน้ำทำนาแล้วยังส่งผลกระทบทั้งด้านอุปโภคและบริโภคด้วยเช่นกัน


ขณะที่เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานหลายพื้นที่ต้องปล่อยให้พืชผลทางเกษตรกรให้ยืนต้นตายเนื่องจากไม่สามารถหาน้ำใส่นาข้าวได้ เช่น เกษตรกร อ.เก้าเลี้ยว ต้องตัดสินใจทิ้งนาข้าวอายุข้าวเพียง 4 สัปดาห์ให้ยืนต้นตายคาแปลงนา เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติและคลองสาธารณะแห้งขอดไม่เหลือนำให้ใช้

นางวรรณา พรหมเพียร เกษตรกร ต.มหาโพธิ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นทำนาเกือบหนึ่งร้อยไร่ โดยก่อนหน้านี้เคยลงขันร่วมกับชาวนาคนอื่นๆ ช่วยกันสูบน้ำจากคลองสาธารณะมาใส่นาข้าว แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งจัด ประกอบกับน้ำในคลองสาธารณะมีน้อยจึงไม่สามารถนำน้ำมาเยียวยานาข้าวได้ ล่าสุดต้องปล่อยให้ข้าวที่ปลูกไว้ทั้งหมดยืนต้นแห้งตาย ในขณะที่ชาวนาคนอื่นๆ ที่ไม่มีแหล่งน้ำของตนเองก็ประสบปัญหาภัยแล้งด้วยเช่นเดียวกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น