บุรีรัมย์ - สถานพินิจฯ บุรีรัมย์ขอโทษยอมรับคีย์ชื่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในระบบผิดพลาดขณะมาเซ็นเอกสารรับรองให้เยาวชนที่ถูกจับคดีเสพยาเสพติด ทำให้รายชื่อโผล่เป็นผู้ต้องโทษและเสียสิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค ล่าสุดแก้ไขแล้ว เจ้าตัวไม่ติดใจแค่ฝากให้รอบคอบ
วันนี้ (20 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ศิริพร อันดี อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านชุมแสง ตำบลทุ่งแสงทอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากเดินทางไปโรงพยาบาลนางรองเพื่อตรวจรักษาอาการปวดชายโครง แต่พอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคีย์ตรวจสอบสิทธิในระบบกลับแจ้งว่าไม่สามารถใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรคได้ เนื่องจากมีชื่อผู้ขอใช้สิทธิอยู่แล้ว ซึ่งผู้ที่ใช้สิทธิมีชื่อ นามสกุล และเลข 13 หลักตรงกันกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่ปัจจุบันมีสถานะเป็นผู้ต้องขังหรือนักโทษอยู่ในเรือนจำ จนทำให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต้องเสียสิทธิในการรักษาตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ล่าสุด น.ส.จิตติมา กระสานติ์กุล ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ หรือ (สถานแรกรับเด็กและเยาวชน) กระทรวงยุติธรรม ได้ออกมายอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของทางสถานพินิจฯ เนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา น.ส.ศิริพร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้มาเซ็นเอกสารรับรองที่สถานพินิจฯ กรณีมีลูกบ้านซึ่งเป็นเยาวชนถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ได้คีย์รายชื่อลงในระบบผิดพลาดเป็นชื่อของ น.ส.ศิริพร จนทำให้ชื่อของ น.ส.ศิริพร ตกอยู่ในสถานะเป็นผู้พำนักในสถานที่ภายใต้การดูแลของส่วนราชการ 2 หรือผู้ต้องโทษ
หลังจากทราบว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น ขณะนี้ทางสถานพินิจฯ ได้ดำเนินการแก้ไข พร้อมทั้งได้ขอโทษ น.ส.ศิริพร ผู้เสียหายเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งนี้ จากการติดต่อประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัด ทราบว่าได้ดำเนินการแก้ไขและคืนสิทธิให้แก่ น.ส.ศิริพรเรียบร้อยแล้ว
ด้าน น.ส.ศิริพร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า หลังจากพบชื่อตัวเองเป็นผู้ต้องโทษ นอกจากจะทำให้เสียสิทธิในการรักษาตามโครงการของรัฐแล้ว รู้สึกกังวลและไม่สบายใจเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหา จึงได้พยายามไปขอตรวจสอบทั้งทางอำเภอ โรงพยาบาล และแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นางรอง และกำลังจะไปติดต่อที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ตามที่มีรายชื่อระบุในเอกสารว่ามีการแจ้งใช้สิทธิรักษาที่ รพ.สต.บ้านหัววัว ต.เสม็ด กระทั่งล่าสุดทางสถานพินิจฯ ก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเกิดความผิดพลาดในการคีย์รายชื่อที่สถานพินิจฯ จึงรีบเดินทางไปที่สถานพินิจฯทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายรายละเอียดให้ฟังว่าผิดพลาดที่ขั้นตอนไหน
พร้อมทั้งได้ยอมรับผิดและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่ได้ติดใจอะไร และรู้สึกโล่งใจที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการแก้ไข พร้อมคืนสิทธิให้เหมือนเดิมแล้ว แต่อยากฝากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ได้มีความรอบคอบในการดำเนินการให้มาก เพื่อจะได้ไม่เกิดกรณีในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก
