xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกอดีต ‘ส.อ.’ 33 ปี 11 เดือน คดีอุ้มฆ่านั่งยาง ‘น้องพลอย’ คดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 57

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี - ศาลฎีกาตัดสินให้ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุกอดีต ‘ส.อ.’ 33 ปี 11 เดือน ปรับ 1 ล้าน 5 แสนบาท คดีอุ้มฆ่านั่งยาง ‘น้องพลอย’ คดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 57

คดีน้องพลอย ถือเป็นอีกคดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 2557 เมื่อ น้องพลอย ถูก ส.อ.พลกฤต วิเศษ หรือเอส อดีตแฟนหนุ่มฆ่าเผาอำพรางคดีนาน 3 ปี โดยนำศพไปทิ้งใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี สาเหตุมาจากปมหึงหวง ถูกตีตัวออกห่าง หลังน้องพลอยจับได้ว่ามีเมียแล้ว

ต่อมา ศาลจังหวัดสระบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 33 ปี 11 เดือน ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท

ล่าสุด วันนี้ (15 ม.ค.) ศาลฎีกาตัดสินให้ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุก อดีต ‘ส.อ.’ 33 ปี 11 เดือน ปรับ 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยนางพัชรี ปั้นทอง พร้อมด้วย นายวิชา ผลิผล พ่อน้องพลอย และทนายปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ารับฟังผลคำสั่งพิพากษาศาลฎีกา

นางพัชรี ปั้นทอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า นับแต่วันนี้ขอให้ชีวิตของแม่มีแต่ความสุข พบแต่สิ่งดีๆ สุขภาพกายใจแข็งแรง และขอให้น้องพลอยไปสู่ภพภูมิที่ดี และขอใช้ชีวิตในส่วนของแม่ทำบุญให้น้อง และก็ขอให้อย่ามีอะไรมาผูกพันกับคนร้าย ส่วนที่จะอโหสิกรรม ขอเพียงว่าอย่าได้มาผูกพันกันอีกต่อไป ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การฎีกาของแม่ ก็คือ ขอเพิ่มโทษ ก็คือศาลพิพากษายืน 33 ปี 11 เดือน พร้อมชดใช้ 1 ล้าน 5 แสนบาท

ส่วนการตัดสินของศาลพึงพอใจไหม ตนรู้สึกน้อยใจในกระบวนการยุติธรรม แต่ครั้งนี้ทำใจไว้แล้ว ว่า ผลออกมาจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่าหลายคดีที่ออกข่าว ฆ่าคนไม่รู้ตั้งกี่ศพยังไม่ประหารเลย แล้วเขาก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้รอดจากการถูกประหารชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม แม่ก็ขอน้อมเคารพการตัดสินของศาล ในมุมมองอีกมุมหนึ่งถือว่ายังโชคดีที่จับคนร้ายมาลงโทษได้

ทนายปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีอุ้มฆ่าอำพรางศพ ผมมองว่า จริงๆ ไม่ควรเป็นเหตุให้ลดโทษ แต่ทั้งนี้ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลฎีกา ก็น้อมรับไปตามนั้น ต่อไประหว่างเจอศพกับไม่เจอศพ ทำให้ไม่เจอศพง่ายกว่าหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่สังคมอาจจะตั้งข้อสงสัยได้ต่อไป ถ้าทำให้ไม่เจอศพและอำพรางศพโทษน้อยกว่าไม่ประหารชีวิต น้อยกว่าที่มาเจอศพแล้วมารับสารภาพทีหลังเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างนี้ต่อไปคนก็ฆ่าแล้วอำพรางศพ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร








กำลังโหลดความคิดเห็น