สุรินทร์-ตร. สภ.กาบเชิง เมืองช้าง ตามรวบผัวโหดฆ่าเมียหมกป่าอ้อย 2 เดือนถูกไฟไหม้ร่างกลายเป็นชิ้นส่วน ขณะหนีไปตัดอ้อยที่สุพรรณฯ สารภาพสิ้นทะเลาะกันทำร้ายเมียจนตายก่อนอุ้มศพไปทิ้งกลางป่าอ้อย ตร.หิ้วตัวทำแผนชาวบ้านแห่ดูหน้าด่าสาปแช่ง
วันนี้ ( 11 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีเมื่อคืนวันที่ 9 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำภูธรจังหวัดสุรินทร์ แพทย์เวรโรงพยาบาลกาบเชิงขอ และ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท เข้าร่วมตรวจสอบและชันสูตรศพ หลังได้รับแจ้งพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกไฟเผาไหม้ภายในป่าไร้อ้อยระหว่างทำการเผาอ้อยเตรียมตัดส่งโรงงานน้ำตาล บริเวณท้ายของหมู่บ้านโคกเวง ม.10 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เบื้องต้นคาดว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางนำศพมาทิ้งไว้หลายเดือนแล้วก่อนถูกไฟเผาไหม้เหลือแค่เพียงอวัยวะบางส่วน และผู้ตายน่าจะเป็นตายนางสาวทวน ชาญศรี อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ 10 บ้านโคกเวง ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง ส่วนฆาตกรคาดว่าเป็น นายเสมอ ช้อนกลิ่น อายุ 56 ปี สามี ขณะนี้เดินทางไปรับจ้างตัดอ้อย ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี นั้น
ล่าสุดบ่ายวันนี้ พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กาบเชิง สามารถจับกุมตัว นายเสมอ ช้อนกลิ่น สามีผู้เสียชีวิต ได้ในเขตพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ขณะไปรับจ้างตัดอ้อย และนำตัวมาสอบปากคำ นายเสมอ ช้อนกลิ่น ได้รับสารภาพ ว่า เป็นคนลงมือฆ่า น.ส.ทวน ชาญศรี ภรรยา จริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2563 หลังได้มีปากเสียงทะเลาะกัน ได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.ทวน จนกระทั่งแน่นิ่งไป จากนั้นได้อุ้มร่าง น.ส.ทวน ไปทิ้ง ในป่าอ้อย ท้ายหมู่บ้า ไม่ห่างจากบ้านพักแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่อชาวบ้านมาสอบถามหา น.ส.ทวน ก็บอกว่าไม่ทราบว่าเขาหายไปไหน แม้ชาวบ้านออกค้นหาเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกตามหาด้วย และ ได้เดินทางออกจากบ้านไปรับจ้างตัดอ้อยที่ จ.สุพรรณบุรี จนกระทั่งมีผู้พบศพ น.ส.ทวน ถูกไฟไหม้ในป่าอ้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากนั้น พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พนักงานสอบสวนเวร สภ.กาบเชิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง ได้นำตัวนายเสมอ ช้อนกลิ่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเลขที่ 80 บ้านโคกเวง ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง ซึ่งเป็นบ้านของนายเสมอสถานที่เกิดเหตุ โดยนายเสมอได้มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาก่อนลงมือทำร้ายภรรยา ซึ่งสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงจนเสียชีวิต แล้วเอาผ้าห่อศพอุ้มไปทิ้งในป่าอ้อย ท้ายหมู่บ้าน ขณะทำแผนปะกอบคำรับสารภาพ มีชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าว พากันเดินทางมามุงดูและตะโกนด่าสาปแช่งด้วยความไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้วรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ออกจากหมู่บ้าน เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมทำร้ายผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง ดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และซ้อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย พฤติการณ์ในการจับกุม