xs
xsm
sm
md
lg

แทบช็อก! พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกทิ้งกระจายกลางไร่อ้อยเมืองบ้านบึง จ.ชลบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - แทบช็อก! คนงานตัดอ้อยเมืองบ้านบึง จ.ชลบุรี พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกทิ้งกระจายกลางไร่ขณะเคลียร์พื้นที่เตรียมตัด แจ้ง ตร.พร้อมผู้นำชุมชนเข้าตรวจสอบ ตั้งประเด็นฆาตกรรมทิ้งศพอำพรางคดี ก่อนเช็กประวัติคนหายในพื้นที่



วันนี้ (5 ม.ค.) ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ถนอมวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งว่า พบโครงกระดูกมนุษย์กลางป่าอ้อยเนื้อที่กว่า 90 ไร่ ในพื้นที่ ม.2 ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

พบโครงกระดูกมนุษย์บริเวณพื้นดินแยกเป็น 6 จุด โดยจุดแรกเป็นชิ้นส่วนขาท่อนล่าง และกระดูกเชิงกราน ห่างออกไปเล็กน้อยพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะที่ยังมีเศษผมหลุดปะปนกับเศษดิน

ที่เหลืออีก 4 จุดเป็นชิ้นส่วนกระดูกซี่โครง ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำกระดูกทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจผล DNA เพื่อหาว่าเป็นของใคร

จากการสอบถาม นางบังอร อินทร์งาม อายุ 41 ปี คนงานตัดอ้อยซึ่งพบโครงกระดูกเป็นคนแรกทราบว่า ขณะกำลังเดินมาที่แปลงอ้อยเพื่อเตรียมลงมือตัดได้เห็นกระดูกกองอยู่ที่พื้น ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนเรียกให้เพื่อนมาช่วยดูก่อนตามนายจ้างให้มาดู และโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ

ขณะที่ นายสมชาย แซ่โล้ว อายุ 49 ปี เจ้าของไร่อ้อยเผยว่า ตนเองได้นำแรงงานเข้าตัดอ้อยตั้งแต่วานนี้ กระทั่งเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ได้รับแจ้งจากคนงานว่า พบโครงกระดูกในไร่อ้อยจึงรีบมาดู ซึ่งปกติแล้วไร่อ้อยแห่งนี้เป็นที่รกและไม่มีคนเข้าออก จะมีเพียงคนมาหาปลาบ้างแต่ไม่บ่อยครั้ง

โดยก่อนหน้านี้เคยมีคนมาตามหาญาติที่หายไป แต่ตนเองไม่ได้สนใจอะไรกระทั่งคนงานพบโครงกระดูกดังกล่าว

จากการตรวจสอบของทีมแพทย์โรงพยาบาลบ้านบึง ระบุว่า ซากโครงกระดูกดังกล่าวน่าจะเป็นของผู้ชาย เนื่องจากกระดูกเชิงกรานเล็กและมีเสื้อยืดสีดำคล้ายเสือผู้ชายอยู่ในที่เกิดเหตุ และคาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 เดือน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่ามีการแจ้งความคนหายไว้บ้างหรือไม่ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นการถูกฆาตกรรมและนำศพมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี

แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลชันสูตรอีกครั้งว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นใคร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น