บุรีรัมย์- จับตัวได้แล้วสุนัขขย้ำด.ญ. 3 ขวบชาว อ.พลับพลาขัย จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตกลางทุ่งนาพบเป็นพันธุ์บางแก้วผสมพันธุ์ไทย ยังไม่ใครยอมรับเป็นเจ้าของ กักเฝ้าดูอาการ 10-15 วัน ว่าติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ขณะญาติเศร้าฝังศพหนูน้อยเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
วันนี้ (19 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่สุนัขขย้ำ ด.ญ.ชุติภา หรือ น้องแตงกวา อายุ 3 ขวบ ขณะตามปู่กับย่าออกไปดูควายที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านบ้านเขว้า ม.4 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธ.ค. โดยมีบาดแผลถูกสุนัขขย้ำที่บริเวณท้ายทอย ลำคอเป็นแผลเหวอะหวะ และตามร่างกายมีแผลจากคมเขี้ยวสุนัขกัดอีกหลายแห่งนอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ขณะเพื่อนบ้านไม่ยอมรับเป็นเจ้าของสุนัขที่ก่อเหตุ และญาติเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายเตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น
ล่าสุด นายอภิชาต สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์พร้อมด้วยปศุสัตว์อำเภอพลับพลาชัย เจ้าหน้าที่ อบต.โคกขมิ้น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ สามารถจับสุนัขตัวดังกล่าวที่ขย้ำน้องแตงกวาเสียชีวิตได้แล้ว หลังจากที่ได้ช่วยกันไล่จับมา 2 วันหลังจากเกิดเหตุแต่ไม่สามารถจับได้ ซึ่งพบว่าเป็นสุนัขเพศเมียพันธุ์บางแก้วผสมพันธุ์ไทย อายุประมาณ 4 ปี และขณะนี้ได้ส่งสุนัขตัวดังกล่าวไปยังด่านกักกันสัตว์ อ.ปะคำ แล้ว เพื่อเฝ้ารอดูอาการเป็นระยะเวลา 10 - 15 วัน ว่าจะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ซึ่งหากติดเชื้อจะแสดงอาการและตายลงภายใน 3 วัน หลังจากนั้นจะตัดหัวส่งไปตรวจพิสูจน์ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่หากสุนัขตัวดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจะไม่แสดงอาการ และทางมูลนิธิเดอะโฮปไทยแลนด์ ได้ประสานจะขอรับสุนัขตัวดังกล่าวไปดูแล
อย่างไรก็ตามช่วงที่รอยืนยันผล ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการฉีดวัคซีน ทำหมันสุนัขและแมว พร้อมให้ความรู้ชาวบ้านในพื้นที่ รัศมี 1- 3 กม. เพื่อเป็นการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคในเบื้องต้น ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานการเกิดโรคในพื้นที่ก็ตาม
ขณะที่ทางพ่อแม่ญาติพี่น้องเตรียมนำร่างน้องแตงกวา เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายถูกสุนัขกัดเสียชีวิตไปทำพิธีฝังที่วัดในหมู่บ้านในช่วงบ่ายวันนี้ท่ามกลางความโศกเศร้า ส่วนจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนหรือไม่ รอปรึกษาหารือกันในครอบครัวอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของสุนัข
