บุรีรัมย์- สาวบุรีรัมย์อดีตพนักงานแบงก์สุดช้ำใจ หอบเงินเก็บกว่า 1.8 แสนไปประมูลรถเก๋งบริษัทชื่อดังที่โคราชหวังเอาใช้ซื้อของมาขาย ขับออกมาไม่ถึง ชม.ไฟลุกท่วมวอดเกือบทั้งคัน แจ้งบริษัทประมูลปัดเป็นเพียงตัวกลาง รับปากจะประสานบริษัทใหญ่ให้ เกือบ 2 เดือนยังเงียบวอนเห็นใจ
วันนี้ (18 ธ.ค.) นางสุฤทัย เซิบรัมย์ หรือ จ๋า อายุ 26 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ได้นำเอกสารหลักฐานพร้อมรูปถ่ายรถยนต์เก๋งทั้งสภาพก่อนและหลังถูกไฟไหม้ ออกมาร้องขอความเป็นธรรม โดยเธอให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2562 ได้ร่วมประมูลรถเก๋ง ผ่านทางออนไลน์กับบริษัทที่เปิดประมูลรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา พอประมูลได้ วันที่ 1 พ.ย. เธอและสามีนำเงินที่เก็บสะสม และเงินจากบัตรเครดิตจำนวน 182,114 บาท ไปจ่ายให้กับทางบริษัทและทำเรื่องติดต่อรับรถเก๋งคันที่ประมูลได้
เมื่อทำเรื่องเสร็จสามีขับรถเก๋งออกจากบริษัทประมูล เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อกลับบ้านที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แต่พอมาถึงบริเวณ ต.ทับสวาย อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา เวลาผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง มีควันออกมาจากบริเวณใต้ท้องรถ ก่อนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ห้องเครื่องยนต์ แล้วลามไปยังกระจก คอนโซน และกระโปรงหน้ารถเสียหาย ทั้งที่รถคันดังกล่าวไม่ได้ติดตั้งระบบแก๊ส และก่อนออกจากบริษัทพนักงานบอกว่ารถไม่มีปัญหา แต่โชคดีที่สามีซึ่งเป็นคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะลงจากรถได้ทัน และมีพลเมืองดีที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์ช่วยดับไฟ แต่รถเสียหายเกือบทั้งคัน
หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วลากซากรถที่ถูกไฟไหม้ไปเก็บไว้ที่ สภ.ห้วยแถลง ขณะที่นางสุฤทัย หรือจ๋า รีบโทรศัพท์แจ้งบริษัทประมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ซึ่งทางบริษัทบอกเพียงว่าเป็นแค่ตัวกลางในการจัดประมูลเท่านั้น แต่รับปากว่าจะประสานทางบริษัทใหญ่ที่เป็นเจ้าของรถให้หลังจากนั้นบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้ว ทั้งทางบริษัทประมูลและบริษัทที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของรถ ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย
จึงอยากจะร้องขอความเป็นธรรมเพราะตนเองและสามีตั้งใจนำเงินที่เก็บสะสมประมูลรถคันดังกล่าวมาใช้ซื้อของมาขายที่ร้านของชำที่บ้าน แต่ตอนนี้สูญทั้งเงิน ไม่มีทั้งรถใช้ จึงอยากขอความเห็นใจจากทางบริษัทได้หารถคันที่สภาพใกล้เคียงกัน หรือจ่ายเงินคืนให้ เพราะรถคันที่ประมูลมาแล้วถูกไฟไหม้ตนไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่ขับออกมาจากบริษัทยังไม่ถึงชั่วโมง และยังไม่ได้โอนด้วยซ้ำแต่กลับมาถูกไฟไหม้เสียหาย
อย่างไรก็ตามหากทางบริษัทไม่ได้ออกมาแสดงความผิดชอบอะไร ตนจะนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และยื่นฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป
