สามเหลี่ยมทองคำ - เรือสินค้าแห่เข้าเทียบท่าสบโหรย ริมฝั่งโขงชายแดนพม่า-ลาว หลังทางการจีนขึงสลิงห้ามเรือเข้าออกแบบไม่มีกำหนด เดินหน้าระเบิดเกาะแก่งเปิดร่องน้ำล้านช้างตั้งแต่กวนเหล่ย-กาลันป้า สิบสองปันนา
ความคืบหน้ากรณีทางการจีนนำสลิงขึงกั้นแม่น้ำโขง (แม่น้ำล้านช้าง) พร้อมมีประกาศเมื่อ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา แจ้งผู้ประกอบการเดินเรือว่าจะมีการปรับปรุง-ระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ตั้งแต่เขตเมืองกวนเหล่ยขึ้นไปจนถึงทางเหนืออย่างน้อยจนถึงกาลันป้า เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน รวมระยะทางประมาณ 50-60 กิโลเมตร จึงขอให้ยุติการเดินเรือตามผ่านเส้นทางดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จนั้น
อย่างไรก็ตาม ในห้วงเดียวกันทางการจีนก็ยังคงเพิ่มระดับการปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง ลงสู่แม่น้ำโขง โดยศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง เขื่อนจี่งหง แจ้งว่าเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ในเวลา 08.00 น.ได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อน 2,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ 599.62 เมตร ทำให้เรือสินค้าในลุ่มน้ำโขงตอนบนขนส่งสินค้ากันอย่างคึกคัก
แม้ว่าในปัจจุบันทางการจีนจะปิดเส้นทางภายในประเทศตั้งแต่เมืองกวนเหล่ย เมืองท่าหน้าด่านของจีนตอนใต้เพื่อปรับปรุงร่องแม่น้ำโขงเป็นการชั่วคราวตามที่จีนประกาศออกมาก็ตาม แต่เมืองท่าอื่นๆ ทั้งของไทย สปป.ลาว พม่า รวมถึงเมืองกวนเหล่ยเองก็มีการขนส่งสินค้ากันได้อยู่
โดยเฉพาะท่าเรือสบโหรย เขตปกครองพิเศษที่ 4 รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) พรมแดนพม่า-สปป.ลาว ก่อนถึงชายแดนจีนราว 100 กม. ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกทางการจีนห้ามไมให้เรือสินค้าเทียบท่าใช้บริการ เพราะถือว่าอยู่นอกข้อตกลงการเดินพาณิชย์แม่น้ำโขงตอนบน 4 ชาติ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2543 ที่กำหนดเมืองท่าเพื่อการเชื่อมโยงถึงกัน 14 แห่ง
แต่ล่าสุดเริ่มมีการผ่อนผันให้เรือสินค้าทั่วไปสามารถเข้าไปจอดเทียบท่าเรือสบโหรยได้ ทำให้มีการขนสินค้าจากท่าเรือ อ.เชียงแสน ส่งผ่านท่าเรือสบโหรยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโคกระบือมีชีวิต ชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง ฯลฯ ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 มีการส่งออกโคและกระบือมีชีวิตน้ำหนักรวมกว่า 16,677 ตัน มูลค่า 2,261,877,500 บาท ชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง น้ำหนักกว่า 14,322 ตัน มูลค่า 1,128,262,397.92 บาท และยังมีอื่นๆ อีกหลายรายการ
นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า แม้การสัญจรในแม่น้ำโขงจะประสบปัญหาในบางช่วงที่จีนลดการระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหง แต่การค้าขายในแม่น้ำโขงยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราควรจะมองไปข้างหน้า คือเพิ่มความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ให้มากขึ้น
เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่และต้องการสินค้าในปริมาณมาก แต่จะให้โควตานำเข้าประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน คือพม่า และ สปป.ลาว เช่น ข้าวให้โควตาแต่ละประเทศให้นำเข้าสู่จีนได้ปีละกว่า 1 ล้านตัน โค-กระบือประเทศละ 5 แสนตัว รวมเป็น 1 ล้านตัวต่อปี เป็นต้น แต่ไทยไม่ได้โควต้าส่งเข้าไปในจีน เพราะไม่มีพื้นที่ติดกัน ซึ่งหอการค้าฯ เคยผลักดันให้เจรจากับจีนมานับสิบปีแล้ว และปี 2563 ก็จะผลักดันต่อ โดยอาจจะอาศัยความเป็นบ้านพี่เมืองน้องของเชียงรายกับมณฑลยูนนานขอโควตาระดับจังหวัดกับมณฑลก็ได้
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ฝ่ายกิจการค้าชายแดน กล่าวว่า ตอนนี้แม้ระดับน้ำโขงจะเพิ่มสูงขึ้นกลับมีปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเดินเรือ เพราะหลังเกิดเหตุไฟไหม้เรือน้ำมันริมน้ำโขงสามเหลี่ยมทองคำ จึงมีการปรับระบบให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่าเรือหน้าด่านของไทย ขณะที่จีนก็กำลังจัดระบบให้ได้มาตรฐาน ขณะนี้สถานีเติมน้ำมันเรือในแม่น้ำโขงมีเพียงที่ท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก พม่า ห่างจาก อ.เชียงแสน ประมาณ 10 กิโลเมตร และเริ่มมีการนำเข้าน้ำมันผ่านชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย-ด่านท่าขี้เหล็ก ไปเปิดบริการใต้สะพานข้ามแม่น้ำโขง พม่า-สปป.ลาว (เชียงลาบ รัฐฉาน พม่า-เมืองลอง แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว) และในอนาคตเมื่อมีการปรับปรุงด้านต่างๆ แล้วเสร็จปัญหาจะทุเลาลง