เชียงใหม่ – ยานรกล้นทะลักสามเหลี่ยมทองคำ..ศอ.ปน.ชน.เผยปี 62 ยึดยาบ้าได้กว่า 400 ล้าน ไอซ์เกือบ 20 ตัน เฮโรอีนอีกกว่า 3 พัน กก.สารตั้งต้นร่วม 80 ตัน พร้อมประกาศจับมือ 6 ปท.ลุ่มน้ำโขง เปิดปฏิบัติการ"The Gonlden Triangle Operation1511"
วันนี้(14 ธ.ค.)พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ร่วมกับนายมานิต โกเมศ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายปิติณัช ศรีธรา ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมทางศุลกากรภาค 3, นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทหารกองกำลังผาเมือง, กองกำลังนเรศวร, กองบังคับการ ตชด.ภาค 3, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจภูธรภาค 5, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5, จ.แม่ฮ่องสอน และจ.พะเยา แถลง “ปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ครั้งที่ 1/63 - ศอ.บส.ชน. ณ ห้องประชุม ศป.บส.ชน.ค่ายกองพันพัฒนาที่ 3 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
แม่ทัพน้อยที่ 3 / ผอ.ศอ.บส.ชน. กล่าวว่า ในปี 62 แต่ละประเทศในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ 1,023 คดี ผู้ต้องหา 2,021 คน ยาบ้ากว่า 400 ล้านเม็ด ไอซ์ 19,044 กิโลกรัม เฮโรอีน 3,342 กิโลกรัมและกรดไฮโดรคลอริก 77,046 ลิตร
และเนื่องจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ยังคงเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหลักของโลกที่มีแนวโน้มปริมาณการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ทั้ง 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง จึงเห็นชอบแนวทางสกัดกั้นและปราบปราบยาเสพติด ตาม “ปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ครั้งที่ 1/63 - ศอ.บส.ชน. ”
ซึ่งเป็นการยกระดับความร่วมมือฯ ระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ในการร่วมกันเฝ้าระวังและสกัดกั้นสารเคมีที่เสียงต่อการนำไปผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เพิ่มมาตรการการวางจุดตรวจจุดสกัดกั้นยาเสพติดตามเส้นทาง ภายในแต่ละประเทศให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดำเนินการต่อพื้นที่และหมู่บ้านสำคัญที่คาดว่าเป็นแหล่งผลิตหรือแหล่งพักยาเสพติดในประเทศของตน
โดยจะดำเนินการสืบสวนปราบปรามกลุ่มผู้ผลิตและค้ายาเสพติดในประเทศของตน และจะมีการยกระดับการสืบสวนปราบปรามร่วมกัน เช่น เครือข่ายการค้ายาเสพติดที่มีความเชื่อมโยงทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะคนไทยที่หนีหมายจับไปอยู่ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน, การวางแผนสืบสวนและขยายผลร่วมกัน โดยประเทศฝ่ายหนึ่งสามารถ ร้องขอให้มีการปฏิบัติการของอีกฝ่ายหนึ่งได้ เพื่อขอความร่วมมือในการสอบปากคำ และขยายผลอย่างรวดเร็วทันการณ์ต่อไป
พล.ท.สุภโชค กล่าวอีกว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายคู่ขนาน คือ ฝ่ายประเทศเพื่อนบ้าน 10 พื้นที่ 21 จุด และคนไทยหนีหมายจับไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว 53 เป้าหมาย ส่วนพื้นที่เป้าหมายฝ่ายไทยกำหนดพื้นที่เสี่ยงสำคัญที่อาจมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและสารตั้งต้น/เคมีภัณฑ์ ผ่านเข้า - ออก พื้นที่ชายแดน 20 ช่องทาง/ท่าข้าม, 23 พื้นที่หมู่บ้านและ 12 เส้นทางเพ่งเล็งด้านเชียงใหม่และเชียงราย
สำหรับการจัดกำลังร่วมปฏิบัติตามแผนฯยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหยุดยั้งการนำเข้าและส่งออกยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ บริเวณพื้นที่ชายแดนภาคเหนือของไทย ให้ส่งผลต่อสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ภายใต้ความร่วมมือของอนุภาคี 6 ฝ่าย หรือ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงต่อไปนั้น
ฝ่ายไทย ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ, กองกำลังผาเมือง, กองกำลังนเรศวร, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจภูธรภาค 5, สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจ.เชียงใหม่, จ.เชียงราย, จ.แม่ฮ่องสอนและจ.พะเยา.