ศูนย์ข่าวศรีราชา - โอละพ่อ!ข่าวเรือสำราญยักษ์ชนโขดหินหน้าอ่าวพัทยา ที่แท้แค่จอดหลบคลื่นลมก่อนขนต่างชาตินับร้อยท่องราตรี เมืองพัทยา ด้านผู้บริหารเมืองเผยเป็นโอกาสดีที่ในอนาคตเรือสำราญอาจปรับเปลี่ยนเส้นทางเข้าพัทยามากขึ้น
จากกรณีที่เกิดกระแสข่าวสะพัดเมืองพัทยา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ธ.ค.)ว่ามีเรือสำราญขนาดใหญ่จอดเกยตื้นหลังปะทะโขดหินหน้าอ่าวพัทยา ห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล โดยเป็นช่วงระหว่างโรงแรมรอยัลคลิฟพัทยา กับเกาะล้าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนทำให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคเมืองพัทยา ต้องสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ นำกำลังเข้าตรวจสอบ
โดยพบเรือชื่อ “The World” สัญชาติบาฮามาส ขนาด 43,188 ตันกรอส สูง 8 ชั้น พร้อมดาดฟ้าเรือสุดหรูซึ่งขนนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 147 คน และลูกเรืออีก 293 คน เดินทางจากประเทศสิงคโปร์เ ไปยังเกาะสมุย-เกาะกูด และกำลังจะเดินทางไปยังหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ระหว่างทางทะเลมีคลื่นลมแรงจึงต้องแวะจอดทิ้งสมอหลบลมหลังเกาะล้าน
และจากการตรวจสอบสภาพเรือ ไม่พบว่ามีสภาพชำรุดเสียหายแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ประจำเรือยังเผยอีกว่าบริษัทที่นำนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเรือสำราญลำดังกล่าว ยังมีแผนที่พานักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งเพื่อท่องเที่ยวยังเมืองพัทยา 1 คืน
นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา กล่าวว่า เรือสำราญลำดังกล่าวแล่นเข้ามาในอ่าวพัทยาตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งหลังเกิดข่าวลือ สำนักงานเจ้าท่าฯ และเมืองพัทยา ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเรือ ซึ่งก็พบว่าได้เข้ามาจอดหลบลมคลื่นลมที่มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร และบริษัทนำเที่ยวยังได้เปลี่ยนแผนในการหลบพักคลื่นลมด้วยการนำนักท่องเที่ยวท่องเมืองพัทยาแทน
“ จากการตรวจสอบตัวเรือไม่ได้รับความเสียหายตามข่าว เพราะจอดในร่องน้ำลึกแต่ก็มีโขดหินอยู่บ้าง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ประจำเรือได้ส่ง เอกสารเพื่อขออนุญาตจอดเรือตามขั้นตอนของกฎหมายในกรอบระยะเวลา 24 ชั่วโมงแล้ว" นายเอกราช กล่าว
ขณะที่ นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่าขณะนี้ได้มีตัวแทนเรือ “The World” ติดต่อมายังเมืองพัทยา เพื่อยื่นหนังสือขออนุญาตจากนายกเมืองพัทยา ในการใช้ท่าเรือบริเวณแหลมบลาลีฮาย พัทยาใต้ เพื่อขนนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งแล้ว และนักท่องเที่ยวทั้งหมดจะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองตามกฏหมาย
“ ส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาสดีที่มีเรือมาจอดหลบคลื่นลม และนำนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าเยี่ยมชมเมืองพัทยา ซึ่งอาจจะทำให้ในอนาคตเมืองพัทยา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่ถูกบรรจุไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยวของกลุ่มเรือสำราญขนาดใหญ่ก็ได้ ซึ่งก็สอดคล้องกับแผนการพัฒนาของเมืองพัทยา ที่จะจัดทำท่าเทียบเรือ Cruise Terminal บริเวณปลายแหลมเมืองพัทยา ตามแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC “ นายรณกิจ กล่าว
ด้าน นายปิยวัฒน์ ภูษาทอง ตัวแทน บริษัท เอสไฟว์ เอเชีย จำกัด ในฐานะตัวแทนเรือ “The World” กล่าวว่าเรือสำราญลำดังกล่าวมี ลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียมลอยน้ำที่มีการซื้อขายขาดกับนักท่องเที่ยวให้เป็นเจ้าของห้องพักแต่ละห้อง และจะมีการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวเป็นประจำครั้งละประมาณ 2-4 วัน
ส่วนสาเหตุที่ต้องจอดแวะพักที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เนื่องจากคลื่นลมแรงและนักท่องเที่ยวเองก็ประสงค์ที่จะแวะพักผ่อนที่เมืองพัทยา ประกอบกับตัวเรือมีระบบเรดาห์จับความลึกใต้ทะเลอยู่แล้ว ซึ่งตัวเรือกินน้ำลึกประมาณ 7 เมตร ขณะที่พื้นที่จอดในเมืองพัทยา มีความลึกของน้ำทะเลประมาณ 10-12 เมตร จึงทำให้ไม่มีปัญหา
และอนาคตอาจวางโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวสู่เมืองพัทยาอีกด้วย หลังได้รับทราบนโยบายจากฝ่ายบริหารว่า เมืองพัทยา มีแผนจะสร้างท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่