เชียงใหม่ - คลัสเตอร์ทัวร์จีนกลุ่ม “แอ่วเปิงใจ” เปิดเวทีระดมความเห็นเตรียมรับนักท่องเที่ยวจีนปี 63 หลังพบสัญญาณนักท่องเที่ยว F.I.T. ขยายตัวเพิ่ม เร่งวางรูปแบบเสนอแพกเกจทัวร์ออนไลน์-ใช้เทคโนโลยีเสริมมาตรการความปลอดภัย
กลุ่มคลัสเตอร์ “แอ่วเปิงใจ” ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจทัวร์จีน มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวประมาณ 60 ราย ที่เน้นทำตลาดท่องเที่ยวจีนในเชียงใหม่มากกว่า 60% ได้จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนประจำปี 2563 ที่ห้องบอลรูมชั้น 3 ภัตตาคารตูลู่ ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆนี้ โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้อำนวยการการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และ ผอ.ททท.เชียงใหม่ เข้าร่วม
นางสาวอัญชลี วิทยานันทพรกุล ผู้บริหารบริษัท CM.Paradise Tour จำกัด - หัวหน้าผู้ประสานงานกลุ่มแอ่วเปิงใจ ได้กล่าวแนะนำสมาชิกคลัสเตอร์ “แอ่วเปิงใจ” พร้อมเริ่มการสัมมนาเรื่องการขยายตัวของการท่องเที่ยวแบบ F.I.T. (Free Individual Travelers) ของนักท่องเที่ยวจีน คือ การท่องเที่ยวแบบอิสระ ซึ่งมีความแตกต่างกับ G.I.T. (Group Inclusive Travelers) คือแบบมาเป็นกลุ่ม
จากข้อมูลของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่โจ้, มหาวิทยาลัยพายัพ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) ได้ร่วมให้ข้อมูลมิติการท่องเที่ยวที่กำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกดิจิทัล ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงในการขยายตัวของการท่องเที่ยวแบบ F.I.T. หรือมาท่องเที่ยวแบบอิสระที่เป็นกลุ่มเล็กๆ หรือมากันเองจากตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก
นางสาวอัญชลีกล่าวด้วยว่า จากการหารือบริษัทนำเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ของจีน (Online Travel Agency) พบว่าตลาด F.I.T. ของนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในปี 2563 สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือ การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอันดับแรก รองลงมาคือเรื่องของคุณภาพการบริการ แม้ที่ผ่านมาจะมีเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับคุณภาพแต่ก็เกิดจากบางบริษัท แต่ในภาพรวมแล้วบริษัทส่วนใหญ่ก็ทำกันอย่างมีคุณภาพ
เวทีสัมมนาได้สรุปเป็นประเด็นข้อเสนอแนะที่สำคัญ คือ 1. เราต้องพัฒนาในเรื่องคุณภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากความปลอดภัย ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ทาง OTA จีนให้ความสนใจ
2. กลุ่มคลัสเตอร์ แอ่วเปิงใจ จะมีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานของการให้บริการ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการปฏิรูปอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่ และเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติการท่องเที่ยวของประเทศ ด้วยการนำความหลากหลายในดินแดนล้านนาและเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความงดงามทางธรรมชาติและความประณีตในเรื่องของวิถีชีวิต ผสมผสานเข้ากับความโดดเด่นทางเทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อให้ Information กับนักท่องเที่ยวในรูปของเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เช่น วิดีโอสามมิติของแหล่งท่องเที่ยว (Interactive 3D Guide Map) แผนที่แหล่งท่องเที่ยวเสมือนจริง (Google Street View), ต้องมีการเตรียม Automatic Call Center สามารถรับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่นักท่องเที่ยวทุกโอกาส ซึ่งจะพัฒนาไปสู่การเป็นระบบ Ai ที่สามารถใช้เสียงในการสั่งการ, พัฒนาเทคโนโลยีที่จะสร้างความประทับใจให้กลับมาเยือนเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีการเสนอให้ใช้เทคโนโลยีบันทึกความทรงจำดิจิทัล (Memories Recognition) เข้าร่วมด้วย
ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดจะได้นำข้อเสนอแนะสิ่งที่ได้จากการสัมมนาของคลัสเตอร์ แอ่วเปิงใจ ไปปรับให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของจังหวัด ซึ่งเป็นภารกิจในการช่วยพัฒนาตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เกิดประโยชน์แก่จังหวัดเชียงใหม่โดยองค์รวม
ขณะที่นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยินดีที่จะเริ่มรังสรรค์งานวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้เข้ามาเที่ยวเชียงใหม่อย่างเต็มที่