มหาสารคาม - รอง ผบช.ภาค 4 ลงพื้นที่ จ.มหาสารคาม ตามคดีลูกชายร้องแม่หาย 4 ปี กลายเป็นศพนิรนาม ถูกฆ่ารัดคอทิ้งศพข้างทาง กำชับเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด คาดเร็วๆ นี้คดีจะกระจ่าง แต่ห่วงเหตุเกิดกว่า 4 ปี หวั่นหลักฐานอาจเลือนราง
วันนี้ (28 พ.ย. 62) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามคดีฆาตกรรมอำพราง นำศพมาทิ้งในเขตพื้นที่ สภ.ท่าตูม ตั้งแต่ปี 2558 ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายผู้เสียชีวิตได้มายื่นหนังสือที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคดีหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยมี พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และคณะ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี
พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายวิราช หอมดอกพุท ได้เข้าร้องทุกข์กรณีมารดา คือ นางสุมาลี แสงเดือน สูญหายไปตั้งแต่ปี 2558 รวมระยะเวลา 4 ปี ต่อมาทราบจากผลตรวจ DNA ว่าตรงกับศพหญิงนิรนามที่ถูกฆ่ารัดคอทิ้งอยู่ที่ป่าข้างทาง ใกล้โรงเรียนบ้านโดท่างาม ต.ห้วยแอ่ง อ.เมืองฯ จ.มหาสารคาม เขตรับผิดชอบของ สภ.ท่าตูม
ทั้งนี้ นายวิราช ลูกชายผู้ตายให้การว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 58 ก่อนที่มารดาจะหายตัวไป เกิดมีปากเสียงกับสามีใหม่ ได้ไปเคลียร์ปัญหา นับจากนั้นมารดาก็หายไป พบเพียงรถกระบะถูกจอดทิ้งไว้กลางทุ่งนาห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ ประมาณ 5 กิโลเมตร ภายในรถพบคราบเลือดติดอยู่ โดยได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ แต่ก็ไม่คืบหน้า จนกระทั่งเดือนกันยายน 62 ที่ผ่านมา ครอบครัวได้ประกาศตามหาผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกครั้ง กระทั่งได้รับการประสานจากมูลนิธิกระจกเงา ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจ DNA ของลูกชาย และนำไปเทียบเคียงกับศพหญิงนิรนามทั่วประเทศ จนพบข้อมูลตรงกันกับศพหญิงนิรนามศพหนึ่งที่ถูกฆ่ารัดคอทิ้งไว้ในพื้นที่ของ สภ.ท่าตูม โดยศพของหญิงนิรนามได้ถูกนำไปฝังไว้ที่สุสานแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เพิ่งถูกทำพิธีล้างป่าช้าไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ติดตามคดีวันนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งในทางคดีมีความคืบหน้าไปมาก ประเด็นการก่อเหตุครั้งนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะมีความกระจ่างมากขึ้น ส่วนความยากของคดีนี้ คือคดีเกิดขึ้นนานถึง 4 ปี พยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านนิติวิทยาศาสตร์ ด้านเทคโนโลยีต่างๆ คงจะเลอะเลือน แต่ความซับซ้อนของคดีนี้ ดูแล้วไม่ยากเพราะมีปมก่อเหตุอยู่ ซึ่งฝ่ายสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าเร็วๆ นี้น่าจะสรุปข้อมูลได้
