หวั่นแม่ตายฟรี! หาย4ปีกลายเป็นศพนิรนาม ร้องภาค4จับคนร้าย

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-หวั่นแม่ตายฟรี ลูกชายร้องตำรวจภาค 4 ติดตามคดีแม่หายกว่า 4 ปีพบกลายเป็นศพนิรนามถูกฆ่ารัดคอ คนร้ายหนีลอยนวล ด้านมูลนิธิกระจกเงา ชี้ศพนิรนามในประเทศไทยไร้ระบบขาดการตรวจสอบกับคนหาย


วันนี้ (26พ.ย.62) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา พานายวิราช หอมดอกพุท ชาว จ.สุรินทร์ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้แทน พ.ต.อ.กีรติพนธ์ สุวรรณพิชญา รอง ผบกฯ ปฏิบัติราชการสำนักงานผูบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี มารดาของตนเองหายตัวไปอย่างลึกลับนานกว่า 4 ปี ต่อมาตรวจสอบดีเอ็นเอ พบว่ามารดากลายเป็นศพนิรนามถูกฆ่ารัดคอทิ้งศพไว้ที่จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่หายตัวไป ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ หวั่นมารดาตายฟรี

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น จากการที่นางสุมาลี แสงเดือน อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่คืนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 จากห้องพักที่อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และพบรถกระบะของคนหาย ตกอยู่ในท้องนาห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 5 กิโลเมตร สภาพรถถูกเปิดประตูทิ้งไว้ ไฟหน้าเปิดอยู่และมีคราบเลือดภายในรถ โดยบุตรชายนางสุมาลี ได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ตั้งแต่ปี 2558

ต่อมาบุตรชายพยายามตามหาตัวมารดามาโดยตลอด กระทั่งเดือนกันยายน 2562 ได้โพสประกาศตามหามารดาในโลกออนไลน์อีกครั้ง และมูลนิธิกระจกเงา ได้ประสานตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดอาจเกิดเหตุอาชญากรรมกับคนหาย จึงส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจไตรรงค์ ผิวพรรณ เลขานุการ คบคน.ตร ลงพื้นที่ติดตามคดีที่จังหวัดสุรินทร์และเก็บดีเอ็นเอบุตรชายนางสุมาลีมาตรวจเปรียบเทียบกับศพนิรนามทั่วประเทศ

จนพบข้อมูลว่า ตรงกับศพหญิงนิรนามที่ถูกฆ่ารัดคอทิ้งไว้ในท้องที่ สถานีตำรวจภูธรท่าตูม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 โดยศพนิรนามดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงถูกนำส่งไปฝังไว้ที่สุสานของมูลนิธิเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และเพิ่งถูกล้างป่าช้าไปเมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา


นายวิราช หอมดอกพุท บุตรชายนางสุมาลี กล่าวว่าตลอดเวลาเกือบสี่ปีที่ผ่านมา ตนเองและน้องๆ ติดตามหาแม่มาโดยตลอด ทราบก่อนแม่หายตัวไปว่า แม่ได้ทะเลาะกับสามีใหม่ สาเหตุจากความหึงหวง โดยคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 แม่น่าจะไปเคลียร์ปัญหากับสามีใหม่ แล้วหายตัวไป ทั้งนี้สามีใหม่ของแม่เพิ่งคบกันได้ไม่ถึงปี ก็หายตัวไปด้วย นอกจากนี้จุดที่พบรถกระบะของแม่ก็เป็นซอยบ้านของสามีใหม่ และไม่สามารถติดต่อสามีใหม่ของแม่ได้นับตั้งแต่วันที่แม่หายตัวไป

หลังจากพบว่าแม่ที่หายตัว กลายเป็นศพนิรนามถูกฆ่ารัดคอ ลูกๆต่างเสียใจและพูดคุยกันว่า ทำไมต้องทำกับแม่ตนโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ หลังทราบข้อเท็จจริง ได้นิมนต์พระไปเชิญวิญญาณแม่ มาจากจุดพบศพ เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา นำเสื้อผ้าของใช้ของแม่มาทำพิธี เนื่องจากร่างของแม่ถูกเผาล้างป่าช้าไปแล้ว โดยครอบครัวตน อยากให้ตำรวจช่วยติดตามคดี จึงมายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ช่วยเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ในเร็ววัน




ด้านมูลนิธิกระจกเงา ระบุว่าการเก็บข้อมูลศพนิรนามในประเทศไทย ยังไม่เป็นระบบเดียวกัน ทั้งประเทศ การจัดเก็บข้อมูลศพนิรนามมีหลายหน่วยงานจัดเก็บและไม่เป็นเอกภาพ ควรมีการเก็บดีเอ็นเอศพนิรนามไว้ทุกรายและรวมเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ตลอดจนข้อมูลคนหายที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ ถ้ามีลักษณะผิดปกติ หายไปในเชิงอาชญากรรม ควรเก็บดีเอ็นเอของญาติคนหายไว้เปรียบเทียบด้วยทุกกรณี

ด้านผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 กล่าวว่า ทางตำรวจภูธร ภาค 4 มีการประชุมเรื่องของพยานหลักฐานต่างๆแล้ว และกำลังเร่งตามหาหลักฐานเพิ่มเติม ในสัปดาห์หน้าคงจะมีความคืบหน้าการตามตัวผู้ต้องหาได้ และจะเร่งตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด