กาฬสินธุ์ - หอการค้าเมืองน้ำดำ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวนาอินทรีย์ปลอดสารพิษ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ช่วยเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิตและยังได้ร่วมรักษาประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว
วันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่แปลงนาข้าวอินทรีย์ของนางมะลิ เคราะห์ดี เกษตรกรบ้านกลางหมื่น อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ประธานหอการค้า จ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กว่า 50 คน ร่วมประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวนาอินทรีย์ปลอดสารเคมีเนื้อที่กว่า 100 ไร่
นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ประธานหอการค้า จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงแขกเกี่ยวข้าว ส่วนหนึ่งคือประเพณีแห่งความสมัครสมานสามัคคีที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เป็นสิ่งที่ดีงามที่ลูกหลานต้องร่วมกันสืบทอดไว้ ขณะเดียวกันการส่งเสริมให้เกษตรกรได้หันมาปลูกข้าวปลอดสารพิษ จะเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุนการผลิต สร้างความปลอดภัยให้กับทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค นอกจากนี้มูลค่าทางการตลาดยังสูงกว่าราคาตลาดทั่วไป เพราะข้าวอินทรีย์ที่มีมาตรฐานออแกนิกส์จะมีราคาสูงกว่าครึ่งจากราคาตามท้องตลาดทั่วไป ทั้งนี้ ในการส่งเสริมเกษตรกรควบคู่ไปกับการหาตลาดต้องทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อยกระดับเพิ่มมูลค่าของผลผลิตการเกษตร
กาฬสินธุ์เป็นเมืองของแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งภาครัฐต้องเข้ามาดูแลเรื่องการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้น เกษตรกรชาวกาฬสินธุ์ส่วนใหญ่ปลูกข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง จากนาข้าวอินทรีย์ยกระดับเป็นข้าวออแกนิกส์ ก็จะทำให้มีราคาเพิ่มขึ้น กก.ละ 10-20 บาท ประเทศคู่แข่งด้านข้าวอย่างประเทศเวียดนามปีนี้มีผลผลิตมากกว่าทางประเทศไทยมาก ซึ่งระยะยาวประเทศไทยต้องต้องวางการทำเกษตรกรรมทั้งระบบ ต้องอาศัยนโยบายจากทางภาครัฐการจัดโซนนิ่งข้าวเพื่อพัฒนาคุณภาพข้าวจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง มากกว่าการปลูกข้าวตามยถากรรมเช่นที่เป็นอยู่ขณะนี้
ด้านนางมะลิ เคราะห์ดี เกษตรกรเจ้าของแปลงนากล่าวว่า นาข้าวของตนกว่า 100 ไร่ ได้รับเปลี่ยนเป็นนาข้าวอินทรีย์เต็มระบบได้ 3 ปีแล้ว ปลูกทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าพันธุ์ดี โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ สนับสนุนกำลังนักศึกษามาลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าวทุกปี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาครัฐและภาคเอกชนที่คอยเติมเต็มความรู้แนะแนวทางการพัฒนาด้านเกษตรมาเป็นอย่างดี โดยปีหน้าจะต่อยอดพัฒนาสู่การเป็นข้าวออร์แกนิก
นอกจากนี้ การทำนาข้าวปลอดสารเคมีเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยและมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งนาข้าวแปลงนี้เป็นแหล่งข้าวของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเหล่ากลาง ซึ่งครอบครัวได้มอบให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไว้เป็นเสบียงอาหารกลางวันของเด็กๆ ตลอดทั้งปี