ราชบุรี - กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลหลังเข้าตรวจสอบที่ดินในพื้นที่บริเวณฟาร์มเขาสน ของ “ปารีณา” รุกป่า 46 ไร่ พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (24 พ.ย.) หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นที่บริเวณฟาร์มไก่เขาสน ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ในพื้นที่ 1,700 ไร่ และได้ทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านหลังฟาร์ม ซึ่งติดกับภูเขา โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 มานำชี้แนวเขต เนื่องจาก น.ส.ปารีณา นั้นไม่สามารถติดต่อไป ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการเดินสำรวจพื้นที่
จากนั้นในเวลา 17.00 น. นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร นายสมชาย เปรมพาณิชย์นุกูล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายพัฒนะ ศิริมัย ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. และนายนายวัฒนา มังธิสาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการแผนที่จัดสรรระบบที่ดินของ ส.ป.ก. ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องประชุมของ อบต.รางบัว อ.จอมบึง
โดยสรุปว่าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเขตของป่าไม้ ซึ่งพบว่า ในบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างฟาร์มไก่ เบื้องต้นนั้นพบว่าพื้นที่ที่มีการประกอบกิจการเขาสนฟาร์ม ประมาณ 690 ไร่ มีที่ดินในส่วนบริเวณฟาร์มไก่ เนื้อที่ประมาณ 46 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จึงต้องทำการตรวจยึดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4 (1)
ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปี ถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และหากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินคดีในส่วนของ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ด้วย ต่อไปเมื่อพื้นที่นั้นถูกประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 น.ส.ปารีณา ก็จะผิด พ.ร.บ.ป่าสงวน มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางป่า เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้ามื่นบาท แต่ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
จากนั้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ครอบครองที่ดิน ส่วนในที่ดินที่เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก.นั้นได้มีการส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ครอบครองพื้นที่ ซึ่งก็คือ น.ส.ปารีณา ให้นำเอกสารมาชี้แจง โดยมีกำหนดระยะเวลา 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ และถ้าครบกำหนดแล้วผู้ที่ครอบครองที่ดินนั้นยังไม่นำเอกสารมาชี้แจง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายของ ส.ป.ก. ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ส่วนที่ น.ส.ปารีณา มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่ามีการเสียภาษีดอกหญ้าในที่ดินทั้งหมด 1,700 ไร่นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า มีแค่ 690 ไร่ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 1,000 ไร่ นั้น น.ส.ปารีณา ต้องไปชี้แจงเองว่าที่ดินนั้นอยู่บริเวณใด