ฉะเชิงเทรา - เพราะไว้ใจ! เสี่ยใหญ่ใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ร้องสื่อช่วย หลังเสียท่านายธนาคารร่วมมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าจัดหาคนงานให้แก่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ขอกู้เงินหมุนเวียนระหว่างรออนุมัติเงินกู้แบงก์โดยใช้อัตราดอกเบี้ยสูงล่อใจ ทำสูญเงิน 7 ล้าน
วันนี้ (21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายศักดิ์ชาย วณิชย์ถนอม อายุ 60 ปี นักธุรกิจค้าที่ดินและเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อประมาณเดือน ต.ค.2561 ที่ผ่านมา ตนเองได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า มีลูกค้าสินเชื่อของธนาคารกำลังขาดสภาพคล่องทางการเงิน และต้องการใช้เงินหมุนเวียนระหว่างรอการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคาร เป็นเงินจำนวน 29 ล้านบาท
โดยลูกค้ารายนี้มีความต้องการที่จะขอกู้ยืมเงินจากตนเองพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องภายในบริษัท และด้วยความไว้วางใจที่มีต่อผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อรายดังกล่าวซึ่งตนเองรู้จักคุ้นเคยมานานถึง 40 ปี เนื่องจากได้เข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง
จึงยินยอมให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าจัดหาคนงานให้แก่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังรายใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศกู้ยืมเงิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเกือบ 7 ล้านบาท โดยมีการทำสัญญากู้ยืมเงินภายในธนาคารดังกล่าวในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และมีผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อเป็นผู้รับรองและยืนยันความน่าเชื่อถือให้
"และยังบอกว่าหากสินเชื่อของลูกค้ารายนี้ได้รับการอนุมัติ ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อซึ่งมีอำนาจในการหักเงินที่ได้รับอนุมัติให้กู้ยืมจากทางธนาคาร จะหักเงินจำนวนที่ให้ยืมไปจ่ายคืนให้แก่ตนเองในทันที เพราะลูกค้ารายนี้ยังมีวงเงินจากห้างสรรพสินค้าที่รอจ่ายให้อีกกว่า 20 ล้านบาท แต่เมื่อครบกำหนด 4 เดือนตามที่ได้ตกลงกันไว้ หญิงสาวเจ้าของบริษัทจัดหางานกลับไม่นำเงินมาคืนตามสัญญา เมื่อทวงถามไปยังผู้จัดการสินเชื่อก็ปิดโทรศัพท์หนี เมื่อเดินทางไปพบที่สำนักงานสาขาฉะเชิงเทรา ก็ถูกบ่ายเบี่ยงและยืนยันว่าจะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน สุดท้ายผ่านมากว่า 1 ปี ก็ยังไม่ได้รับเงินคืนแม้แต่บาทเดียว"
นายศักดิ์ชาย ยังกล่าวอีกว่า ตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงอยากเตือนภัยแก่คนในสังคมว่าไม่ควรไว้ใจใคร แม้แต่คนในสถาบันการเงินขนาดใหญ่ หรือบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงในองค์กรชื่อดังระดับประเทศ เพราะแม้แต่คนที่ดูแลประชาชนด้านการเงินก็ยังไว้ใจไม่ได้