อ่างทอง - คลองรำมะสักน้ำแห้งขอดคลอง ชาวบ้านกว่า 300 คน ใน 5 ตำบล รวมตัวเรียกร้องให้ชลประทานปล่อยน้ำรักษาระบบนิเวศและหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรหลายพันไร่ ด้านชลประทานเผยน้ำมีน้อยแต่จะประสานให้ปล่อยมาหล่อเลี้ยงระบบนิเวศไม่ให้เสียหาย
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่บริเวณริมคลองรำมะสัก หน้าวัดวังน้ำเย็น หมู่ที่ 1 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านจาก 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังน้ำเย็น ตำบลรำมะสัก ตำบลบ้านพราน ตำบลสีบัวทอง ในอำเภอแสวงหา และตำบลยางซ้าย ในอำเภอโพธิ์ทอง ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมตลอดทั้ง 2 ฝั่งคลองรำมะสัก จำนวนกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้ทางชลประทาน ช่วยปล่อยน้ำมาหล่อเลี้ยงระบบนิเวศที่อาศัยอยู่ในคลองรำมะสัก ที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร คลองรำมะสักน้ำแห้งขอด และระดับน้ำที่อยู่ในคลองมีระดับลดลงเรื่อยๆ
จนทำให้ฝูงปลานานาชนิด และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในลำคลองอาจจะต้องตายและลดจำนวนลงจากวิกฤตการณ์น้ำ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวจนเริ่มตั้งท้องไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว ส่วนเกษตรกรชาวสวนผลไม้และชาวไร่ก็ยังได้รับผลกระทบทำให้ผลผลิตออกมาน้อยและอาจจะต้องยืนต้นตาย จึงได้เดินทางมารวมตัวกันเรียกร้องให้ทางชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปล่อยน้ำมาแก้ไขปัญหาภัยแล้งไม่ให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น อย่างน้อยให้มีน้ำมาหล่อเลี้ยงระบบนิเวศให้มีชีวิตหลงเหลืออยู่ในลำคลอง
ด้าน นายวินัย บุญศรี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านเปิดเผยว่า ชาวบ้านจากจาก 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังน้ำเย็น ตำบลรำมะสัก ตำบลบ้านพราน ตำบลสีบัวทอง ในอำเภอแสวงหา และตำบลยางซ้าย ในอำเภอโพธิ์ทอง มีความเดือดร้อนเรื่องน้ำในคลองรำมะสัก ซึ่งเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว น้ำในคลองรำมะสักไม่เคยแห้งถึงขนาดนี้ แต่ในตอนนี้ระบบนิเวศโดยเฉพาะฝูงปลาที่อาศัยอยู่หน้าวัดต่างๆ น้ำในคลองแห้งจนไม่อาจจะอาศัยอยู่ได้
จึงได้รวมตัวกันมาขอให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานของกรมชลประทานช่วยปล่อยน้ำมาเพิ่มเพื่อให้ฝูงปลาและระบบนิเวศสามารถอยู่อาศัยได้ ซึ่งคลองรำมะสักแห่งนี้เป็นที่หล่อเลี้ยงระบบนิเวศและพื้นที่เศษฐกิจในการเพาะปลูกทำการเกษตรจำนวนหลายพันไร่ โดยมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนหลายพันหลังคาเรือน เมื่อระดับน้ำในลำคลองเกิดแห้งขอดลง ที่มารวมตัวกันในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อบีบหน่วยงานราชการให้ปล่อยน้ำมาให้เกษตรกรทำการเกษตร แต่เพียงแค่ให้ทำการปล่อยน้ำมาทำการหล่อเลี้ยงระบบนิเวศและเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกไปแล้วบางส่วนเท่านั้น
ทางด้าน นางภรภัค โพธิ์งาม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเองเกิดมาก็เห็นน้ำในคลองรำมะสักเต็มคลองมาตลอด แต่หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำในคลองรำมะสักมีน้ำลดลงทุกปี ซึ่งตนเองเกรงว่าจะกระทบต่อระบบนิเวศและสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในคลอง อาจจะตายจนไม่เหลือ โดยชาวบ้านที่รวมตัวกันมาเรียกร้อง เป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในคลองรำมะสักลดลง ทำให้กระทบต่อระบบนิเวศและพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนหลายพันไร่
ซึ่งทุกวันนี้ตนเองต้องตกเป็นหนี้กว่าล้านบาท ในการลงทุนปลูกข้าวทำนาไปจำนวน 40 ไร่ และทำสวนมะม่วง จำนวน 20 ไร่ หากระดับน้ำลดลงจนแห้งขอด ชาวบ้านทั้ง 5 ตำบล คงได้รับผลกระทบต้องได้รับความเดือดร้อน แม้กระทั่งหาปลาในคลองมาเลี้ยงชีพก็ยังทำไม่ได้
ส่วนทางด้าน นายสมชายธารินทร์ พ่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอ่างทอง กล่าวว่า เบื้องต้นจากการมารับฟังความเดือดร้อนจากชาวบ้านที่เดินทางมาเรียกร้องทั้ง 5 ตำบล ใน 2 อำเภอ ตนเองได้ทำการประสานไปยังโครงการส่งน้ำชันสูตร ซึ่งเป็นต้นทางในการระบายน้ำลงสู่คลองรำมะสัก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ให้ช่วยทำการปล่อยน้ำมารักษาระบบนิเวศ แต่เนื่องจากคลองดังกล่าวเป็นคลองที่ใช้สำหรับส่งน้ำ ประกอบกับเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูแล้งไวกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทางชาวบ้านอาจจะทราบจากข่าวแล้วว่าในปีนี้จะมีปริมาณน้ำที่จำกัด แต่ตนเองยืนยันว่าปริมาณน้ำที่ปล่อยมาจะเพียงพอต่อระบบนิเวศที่อยู่ในลำคลองรำมะสักแห่งนี้