ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เหยื่อแชร์ลูกโซ่ Nice Review ทยอยเข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความคดีฉ้อโกงประชาชนตำรวจภูธรภาค 5 หลังผู้บัญชาการสั่งจัดตั้งเฉพาะกิจ เบื้องต้นคาดยอดรวมผู้เสียหายทะลุหลักพันราย มูลค่าหลายร้อยล้าน
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงที่ตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ Nice Review ที่อ้างตัวว่าเป็นบริษัททำธุรกิจดิจิทัลมาร์เกตติ้ง รับจ้างโปรโมตสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก ทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากที่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการประสานจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จึงได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความคดีฉ้อโกงประชาชนกรณี Nice Review ขึ้น พร้อมทั้งมอบหมายให้กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งความและให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเบื้องต้นเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่คาดว่าจะมีผู้เสียหายนับพันราย และแต่ละรายได้รับความเสียหายเป็นเงินตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลายล้านบาท
ผู้เสียหายรายหนึ่งบอกว่า การที่ตำรวจภูธรภาค 5 มีการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งความคดีนี้ถือว่าเป็นความหวังและประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เสียหาย เพราะก่อนหน้านี้เคยพยายามจะเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้านแล้วแต่ไม่สามารถแจ้งได้ จนกระทั่งทราบข่าวว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สั่งการให้มีการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งความคดีขึ้นมาจึงรีบมาแจ้งความ และมีความหวังว่าจะได้เงินคืน เนื่องจากเวลานี้เดือดร้อนอย่างมากจากการที่บริษัทยังไม่จ่ายเงินคืนให้กว่าล้านบาท ซึ่งเฉพาะที่เชียงใหม่คาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป เพราะเท่าที่รวบรวมกันได้มีผู้เสียหายเป็นพันคน และแต่ละคนมีความเสียหายตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลายล้านบาท โดยในเวลานี้ทุกคนต่างต้องการได้เงินคืน และอยากให้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อกลุ่มผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการทั้งหมดจนถึงที่สุดและเด็ดขาด
ขณะที่ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 5 แนะนำวิธีป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกลวงแชร์ลูกโซ่ว่า อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือบริษัทที่ชักชวนให้นำเงินมาลงทุนในธุรกิจใดๆ ก็ตามที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงมากในเวลาอันรวดเร็ว และเมื่อมีบุคคลชักชวนให้ลงทุนอย่าเพิ่งตัดสินใจในทันที ให้ลองตั้งหลายๆ คำถามที่เกี่ยวกับการลงทุนนั้น
นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบข้อมูลของบุคคลและบริษัทอย่างรอบคอบว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดจากเอกสารต่างๆ อาทิ การจดทะเบียนบริษัท รวมทั้งควรขอคำแนะนำและตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับจากบริษัทกับหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ
